ตัวประกอบของ 4154 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4154
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4154 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4154 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4154 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4154 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4154 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 31, 62, 67, 134, 2077, 4154
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4154 ÷ 1 | = | 4154 | เหลือเศษ 0 |
4154 ÷ 2 | = | 2077 | เหลือเศษ 0 |
4154 ÷ 31 | = | 134 | เหลือเศษ 0 |
4154 ÷ 62 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
4154 ÷ 67 | = | 62 | เหลือเศษ 0 |
4154 ÷ 134 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
4154 ÷ 2077 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
4154 ÷ 4154 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4154
1 x 4154 | = | 4154 |
2 x 2077 | = | 4154 |
31 x 134 | = | 4154 |
62 x 67 | = | 4154 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4154
1 + 2 + 31 + 62 + 67 + 134 + 2077 + 4154 = 6528
▶ ตัวประกอบของ 4154 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 31, 67
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4154 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4154 = 2 x 31 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4154 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4154 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4154 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2077
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4154
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4154 แบบที่หนึ่ง
- 4154
- 62
- 2
- 31
- 67
- 62
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4154 แบบที่สอง
- 4154
- 2
- 2077
- 31
- 67
ดังนั้น 4154 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4154 =
2 x 31 x 67
2. การแยกตัวประกอบของ 4154 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4154 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4154 นั้นก็คือ 2, 31, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4154
2)415431)207767)671ดังนั้น 4154 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4154 = 2 x 31 x 67วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4154
1แยกตัวประกอบของ 4154 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 311 x 6712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4154 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4154 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4154 นั้นก็คือ 2, 31, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4154
2
)4154
31
)2077
67
)67
1
ดังนั้น 4154 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4154 = 2 x 31 x 67
1แยกตัวประกอบของ 4154 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 311 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4154 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4154 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇