ตัวประกอบของ 3577 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3577
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3577 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3577 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3577 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3577 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3577 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 7, 49, 73, 511, 3577
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3577 ÷ 1 | = | 3577 | เหลือเศษ 0 |
3577 ÷ 7 | = | 511 | เหลือเศษ 0 |
3577 ÷ 49 | = | 73 | เหลือเศษ 0 |
3577 ÷ 73 | = | 49 | เหลือเศษ 0 |
3577 ÷ 511 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
3577 ÷ 3577 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3577
1 x 3577 | = | 3577 |
7 x 511 | = | 3577 |
49 x 73 | = | 3577 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3577
1 + 7 + 49 + 73 + 511 + 3577 = 4218
▶ ตัวประกอบของ 3577 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
7, 73
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3577 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3577 = 7 x 7 x 73
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3577 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3577 = 72 x 73
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3577 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3577 = 72 x 73
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3577 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3577 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3577 มา 1 คู่ เช่น 7 x 511
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3577
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3577 แบบที่หนึ่ง
- 3577
- 49
- 7
- 7
- 73
- 49
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3577 แบบที่สอง
- 3577
- 7
- 511
- 7
- 73
ดังนั้น 3577 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3577 =
7 x 7 x 73
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3577 =
72 x 73 หรือ 72 x 731
2. การแยกตัวประกอบของ 3577 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3577 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3577 นั้นก็คือ 7, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3577
7)35777)51173)731ดังนั้น 3577 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3577 = 7 x 7 x 73หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง3577 = 72 x 73 หรือ 72 x 731วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3577
1แยกตัวประกอบของ 3577 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 72 x 7312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3577 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3577 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3577 นั้นก็คือ 7, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3577
7
)3577
7
)511
73
)73
1
ดังนั้น 3577 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3577 = 7 x 7 x 73
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3577 = 72 x 73 หรือ 72 x 731
1แยกตัวประกอบของ 3577 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 72 x 731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3577 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3577 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇