ตัวประกอบของ 3436 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3436
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3436 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3436 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3436 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3436 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3436 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 859, 1718, 3436
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3436 ÷ 1 | = | 3436 | เหลือเศษ 0 |
3436 ÷ 2 | = | 1718 | เหลือเศษ 0 |
3436 ÷ 4 | = | 859 | เหลือเศษ 0 |
3436 ÷ 859 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
3436 ÷ 1718 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
3436 ÷ 3436 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3436
1 x 3436 | = | 3436 |
2 x 1718 | = | 3436 |
4 x 859 | = | 3436 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3436
1 + 2 + 4 + 859 + 1718 + 3436 = 6020
▶ ตัวประกอบของ 3436 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 859
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3436 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3436 = 2 x 2 x 859
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 3436 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3436 = 22 x 859
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 3436 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3436 = 22 x 859
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3436 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3436 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3436 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1718
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3436
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3436 แบบที่หนึ่ง
- 3436
- 4
- 2
- 2
- 859
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3436 แบบที่สอง
- 3436
- 2
- 1718
- 2
- 859
ดังนั้น 3436 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3436 =
2 x 2 x 859
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3436 =
22 x 859 หรือ 22 x 8591
2. การแยกตัวประกอบของ 3436 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3436 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3436 นั้นก็คือ 2, 859 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3436
2)34362)1718859)8591ดังนั้น 3436 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3436 = 2 x 2 x 859หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง3436 = 22 x 859 หรือ 22 x 8591วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3436
1แยกตัวประกอบของ 3436 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 85912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 859 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3436 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3436 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3436 นั้นก็คือ 2, 859 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3436
2
)3436
2
)1718
859
)859
1
ดังนั้น 3436 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3436 = 2 x 2 x 859
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3436 = 22 x 859 หรือ 22 x 8591
1แยกตัวประกอบของ 3436 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 8591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 859 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3436 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3436 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇