โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25623 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25623

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25623 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25623 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 9, 13, 27, 39, 73, 117, 219, 351, 657, 949, 1971, 2847, 8541, 25623
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25623 ÷ 1=25623เหลือเศษ 0
25623 ÷ 3=8541เหลือเศษ 0
25623 ÷ 9=2847เหลือเศษ 0
25623 ÷ 13=1971เหลือเศษ 0
25623 ÷ 27=949เหลือเศษ 0
25623 ÷ 39=657เหลือเศษ 0
25623 ÷ 73=351เหลือเศษ 0
25623 ÷ 117=219เหลือเศษ 0
25623 ÷ 219=117เหลือเศษ 0
25623 ÷ 351=73เหลือเศษ 0
25623 ÷ 657=39เหลือเศษ 0
25623 ÷ 949=27เหลือเศษ 0
25623 ÷ 1971=13เหลือเศษ 0
25623 ÷ 2847=9เหลือเศษ 0
25623 ÷ 8541=3เหลือเศษ 0
25623 ÷ 25623=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25623
1 x 25623
3 x 8541
9 x 2847
13 x 1971
27 x 949
39 x 657
73 x 351
117 x 219
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25623
1 + 3 + 9 + 13 + 27 + 39 + 73 + 117 + 219 + 351 + 657 + 949 + 1971 + 2847 + 8541 + 25623 = 41440
ตัวประกอบของ 25623 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 73
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25623 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25623 = 3 x 3 x 3 x 13 x 73
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25623 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25623 = 33 x 13 x 73
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25623 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25623 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25623 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8541
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25623
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25623 แบบที่หนึ่ง
  • 25623
    • 117
      • 9
        • 3
        • 3
      • 13
    • 219
      • 3
      • 73

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25623 แบบที่สอง
  • 25623
    • 3
    • 8541
      • 3
      • 2847
        • 3
        • 949
          • 13
          • 73
ดังนั้น 25623 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25623 = 3 x 3 x 3 x 13 x 73
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25623 = 33 x 13 x 73 หรือ 33 x 131 x 731

2. การแยกตัวประกอบของ 25623 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25623 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25623 นั้นก็คือ 3, 13, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25623

3
)25623
3
)8541
3
)2847
13
)949
73
)73
1
ดังนั้น 25623 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25623 = 3 x 3 x 3 x 13 x 73
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25623 = 33 x 13 x 73 หรือ 33 x 131 x 731

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25623

1แยกตัวประกอบของ 25623 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 33 x 131 x 731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25623 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25623 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇