ตัวประกอบของ 25622 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25622
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25622 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25622 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25622 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25622 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25622 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 23, 46, 557, 1114, 12811, 25622
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25622 ÷ 1 | = | 25622 | เหลือเศษ 0 |
25622 ÷ 2 | = | 12811 | เหลือเศษ 0 |
25622 ÷ 23 | = | 1114 | เหลือเศษ 0 |
25622 ÷ 46 | = | 557 | เหลือเศษ 0 |
25622 ÷ 557 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
25622 ÷ 1114 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
25622 ÷ 12811 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25622 ÷ 25622 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25622
1 x 25622 | = | 25622 |
2 x 12811 | = | 25622 |
23 x 1114 | = | 25622 |
46 x 557 | = | 25622 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25622
1 + 2 + 23 + 46 + 557 + 1114 + 12811 + 25622 = 40176
▶ ตัวประกอบของ 25622 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 557
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25622 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25622 = 2 x 23 x 557
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25622 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25622 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25622 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12811
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25622
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25622 แบบที่หนึ่ง
- 25622
- 46
- 2
- 23
- 557
- 46
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25622 แบบที่สอง
- 25622
- 2
- 12811
- 23
- 557
ดังนั้น 25622 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25622 =
2 x 23 x 557
2. การแยกตัวประกอบของ 25622 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25622 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25622 นั้นก็คือ 2, 23, 557 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25622
2)2562223)12811557)5571ดังนั้น 25622 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25622 = 2 x 23 x 557วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25622
1แยกตัวประกอบของ 25622 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 55712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 557 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25622 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25622 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25622 นั้นก็คือ 2, 23, 557 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25622
2
)25622
23
)12811
557
)557
1
ดังนั้น 25622 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25622 = 2 x 23 x 557
1แยกตัวประกอบของ 25622 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 5571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 557 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25622 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25622 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇