โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25125 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25125

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25125 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25125 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 25, 67, 75, 125, 201, 335, 375, 1005, 1675, 5025, 8375, 25125
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25125 ÷ 1=25125เหลือเศษ 0
25125 ÷ 3=8375เหลือเศษ 0
25125 ÷ 5=5025เหลือเศษ 0
25125 ÷ 15=1675เหลือเศษ 0
25125 ÷ 25=1005เหลือเศษ 0
25125 ÷ 67=375เหลือเศษ 0
25125 ÷ 75=335เหลือเศษ 0
25125 ÷ 125=201เหลือเศษ 0
25125 ÷ 201=125เหลือเศษ 0
25125 ÷ 335=75เหลือเศษ 0
25125 ÷ 375=67เหลือเศษ 0
25125 ÷ 1005=25เหลือเศษ 0
25125 ÷ 1675=15เหลือเศษ 0
25125 ÷ 5025=5เหลือเศษ 0
25125 ÷ 8375=3เหลือเศษ 0
25125 ÷ 25125=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25125
1 x 25125
3 x 8375
5 x 5025
15 x 1675
25 x 1005
67 x 375
75 x 335
125 x 201
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25125
1 + 3 + 5 + 15 + 25 + 67 + 75 + 125 + 201 + 335 + 375 + 1005 + 1675 + 5025 + 8375 + 25125 = 42432
ตัวประกอบของ 25125 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 67
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25125 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25125 = 3 x 5 x 5 x 5 x 67
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25125 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25125 = 3 x 53 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25125 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25125 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25125 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8375
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25125
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25125 แบบที่หนึ่ง
  • 25125
    • 125
      • 5
      • 25
        • 5
        • 5
    • 201
      • 3
      • 67

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25125 แบบที่สอง
  • 25125
    • 3
    • 8375
      • 5
      • 1675
        • 5
        • 335
          • 5
          • 67
ดังนั้น 25125 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25125 = 3 x 5 x 5 x 5 x 67
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25125 = 3 x 53 x 67 หรือ 31 x 53 x 671

2. การแยกตัวประกอบของ 25125 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25125 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25125 นั้นก็คือ 3, 5, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25125

3
)25125
5
)8375
5
)1675
5
)335
67
)67
1
ดังนั้น 25125 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25125 = 3 x 5 x 5 x 5 x 67
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25125 = 3 x 53 x 67 หรือ 31 x 53 x 671

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25125

1แยกตัวประกอบของ 25125 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 53 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25125 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25125 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇