ตัวประกอบของ 25129 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25129
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25129 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25129 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 25129 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25129 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25129 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 13, 1933, 25129
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25129 ÷ 1 | = | 25129 | เหลือเศษ 0 |
25129 ÷ 13 | = | 1933 | เหลือเศษ 0 |
25129 ÷ 1933 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
25129 ÷ 25129 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25129
1 x 25129 | = | 25129 |
13 x 1933 | = | 25129 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25129
1 + 13 + 1933 + 25129 = 27076
▶ ตัวประกอบของ 25129 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
13, 1933
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25129 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25129 = 13 x 1933
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25129 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25129 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25129 มา 1 คู่ เช่น 13 x 1933
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25129
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25129
- 25129
- 13
- 1933
ดังนั้น 25129 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25129 =
13 x 1933
2. การแยกตัวประกอบของ 25129 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25129 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25129 นั้นก็คือ 13, 1933 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25129
13)251291933)19331ดังนั้น 25129 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25129 = 13 x 1933วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25129
1แยกตัวประกอบของ 25129 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 193312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1933 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25129 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25129 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25129 นั้นก็คือ 13, 1933 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25129
13
)25129
1933
)1933
1
ดังนั้น 25129 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25129 = 13 x 1933
1แยกตัวประกอบของ 25129 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 19331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1933 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25129 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25129 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇