ตัวประกอบของ 2365 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2365
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2365 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2365 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2365 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2365 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2365 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 11, 43, 55, 215, 473, 2365
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2365 ÷ 1 | = | 2365 | เหลือเศษ 0 |
2365 ÷ 5 | = | 473 | เหลือเศษ 0 |
2365 ÷ 11 | = | 215 | เหลือเศษ 0 |
2365 ÷ 43 | = | 55 | เหลือเศษ 0 |
2365 ÷ 55 | = | 43 | เหลือเศษ 0 |
2365 ÷ 215 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
2365 ÷ 473 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
2365 ÷ 2365 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2365
1 x 2365 | = | 2365 |
5 x 473 | = | 2365 |
11 x 215 | = | 2365 |
43 x 55 | = | 2365 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2365
1 + 5 + 11 + 43 + 55 + 215 + 473 + 2365 = 3168
▶ ตัวประกอบของ 2365 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 11, 43
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2365 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2365 = 5 x 11 x 43
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2365 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2365 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2365 มา 1 คู่ เช่น 5 x 473
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2365
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2365 แบบที่หนึ่ง
- 2365
- 43
- 55
- 5
- 11
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2365 แบบที่สอง
- 2365
- 5
- 473
- 11
- 43
ดังนั้น 2365 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2365 =
5 x 11 x 43
2. การแยกตัวประกอบของ 2365 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2365 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2365 นั้นก็คือ 5, 11, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2365
5)236511)47343)431ดังนั้น 2365 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2365 = 5 x 11 x 43วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2365
1แยกตัวประกอบของ 2365 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 111 x 4312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2365 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2365 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2365 นั้นก็คือ 5, 11, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2365
5
)2365
11
)473
43
)43
1
ดังนั้น 2365 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2365 = 5 x 11 x 43
1แยกตัวประกอบของ 2365 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 111 x 431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2365 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2365 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇