ตัวประกอบของ 2372 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2372
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2372 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2372 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2372 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2372 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2372 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 593, 1186, 2372
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 2372 ÷ 1 | = | 2372 | เหลือเศษ 0 |
| 2372 ÷ 2 | = | 1186 | เหลือเศษ 0 |
| 2372 ÷ 4 | = | 593 | เหลือเศษ 0 |
| 2372 ÷ 593 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 2372 ÷ 1186 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 2372 ÷ 2372 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2372
| 1 x 2372 | = | 2372 |
| 2 x 1186 | = | 2372 |
| 4 x 593 | = | 2372 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2372
1 + 2 + 4 + 593 + 1186 + 2372 = 4158
▶ ตัวประกอบของ 2372 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 593
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2372 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2372 = 2 x 2 x 593
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2372 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2372 = 22 x 593
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2372 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2372 = 22 x 593
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2372 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2372 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2372 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1186
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2372
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2372 แบบที่หนึ่ง
- 2372
- 4
- 2
- 2
- 593
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2372 แบบที่สอง
- 2372
- 2
- 1186
- 2
- 593
ดังนั้น 2372 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2372 =
2 x 2 x 593
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2372 =
22 x 593 หรือ 22 x 5931
2. การแยกตัวประกอบของ 2372 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2372 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2372 นั้นก็คือ 2, 593 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2372
2)23722)1186593)5931ดังนั้น 2372 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2372 = 2 x 2 x 593หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง2372 = 22 x 593 หรือ 22 x 5931วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2372
1แยกตัวประกอบของ 2372 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 59312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 593 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2372 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2372 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2372 นั้นก็คือ 2, 593 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2372
2
)2372
2
)1186
593
)593
1
ดังนั้น 2372 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2372 = 2 x 2 x 593
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2372 = 22 x 593 หรือ 22 x 5931
1แยกตัวประกอบของ 2372 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 5931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 593 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2372 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2372 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇