ตัวประกอบของ 1786 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1786
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1786 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1786 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1786 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1786 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1786 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 19, 38, 47, 94, 893, 1786
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1786 ÷ 1 | = | 1786 | เหลือเศษ 0 |
1786 ÷ 2 | = | 893 | เหลือเศษ 0 |
1786 ÷ 19 | = | 94 | เหลือเศษ 0 |
1786 ÷ 38 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
1786 ÷ 47 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
1786 ÷ 94 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
1786 ÷ 893 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
1786 ÷ 1786 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1786
1 x 1786 | = | 1786 |
2 x 893 | = | 1786 |
19 x 94 | = | 1786 |
38 x 47 | = | 1786 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1786
1 + 2 + 19 + 38 + 47 + 94 + 893 + 1786 = 2880
▶ ตัวประกอบของ 1786 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 47
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1786 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1786 = 2 x 19 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1786 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1786 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1786 มา 1 คู่ เช่น 2 x 893
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1786
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1786 แบบที่หนึ่ง
- 1786
- 38
- 2
- 19
- 47
- 38
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1786 แบบที่สอง
- 1786
- 2
- 893
- 19
- 47
ดังนั้น 1786 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1786 =
2 x 19 x 47
2. การแยกตัวประกอบของ 1786 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1786 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1786 นั้นก็คือ 2, 19, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1786
2)178619)89347)471ดังนั้น 1786 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1786 = 2 x 19 x 47วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1786
1แยกตัวประกอบของ 1786 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 4712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1786 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1786 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1786 นั้นก็คือ 2, 19, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1786
2
)1786
19
)893
47
)47
1
ดังนั้น 1786 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1786 = 2 x 19 x 47
1แยกตัวประกอบของ 1786 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1786 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1786 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇