โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 1752 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1752

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 1752 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 1752 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 73, 146, 219, 292, 438, 584, 876, 1752
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1752 ÷ 1=1752เหลือเศษ 0
1752 ÷ 2=876เหลือเศษ 0
1752 ÷ 3=584เหลือเศษ 0
1752 ÷ 4=438เหลือเศษ 0
1752 ÷ 6=292เหลือเศษ 0
1752 ÷ 8=219เหลือเศษ 0
1752 ÷ 12=146เหลือเศษ 0
1752 ÷ 24=73เหลือเศษ 0
1752 ÷ 73=24เหลือเศษ 0
1752 ÷ 146=12เหลือเศษ 0
1752 ÷ 219=8เหลือเศษ 0
1752 ÷ 292=6เหลือเศษ 0
1752 ÷ 438=4เหลือเศษ 0
1752 ÷ 584=3เหลือเศษ 0
1752 ÷ 876=2เหลือเศษ 0
1752 ÷ 1752=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1752
1 x 1752
2 x 876
3 x 584
4 x 438
6 x 292
8 x 219
12 x 146
24 x 73
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1752
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 73 + 146 + 219 + 292 + 438 + 584 + 876 + 1752 = 4440
ตัวประกอบของ 1752 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 73
การแยกตัวประกอบคืออะไร

1752 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

1752 = 2 x 2 x 2 x 3 x 73
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1752 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1752 = 23 x 3 x 73
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 1752 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1752 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1752 มา 1 คู่ เช่น 2 x 876
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1752
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1752 แบบที่หนึ่ง
  • 1752
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 73

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1752 แบบที่สอง
  • 1752
    • 2
    • 876
      • 2
      • 438
        • 2
        • 219
          • 3
          • 73
ดังนั้น 1752 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1752 = 2 x 2 x 2 x 3 x 73
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1752 = 23 x 3 x 73 หรือ 23 x 31 x 731

2. การแยกตัวประกอบของ 1752 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 1752 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1752 นั้นก็คือ 2, 3, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1752

2
)1752
2
)876
2
)438
3
)219
73
)73
1
ดังนั้น 1752 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1752 = 2 x 2 x 2 x 3 x 73
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1752 = 23 x 3 x 73 หรือ 23 x 31 x 731

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1752

1แยกตัวประกอบของ 1752 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1752 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1752 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇