โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 1666 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1666

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 1666 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 1666 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 17, 34, 49, 98, 119, 238, 833, 1666
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1666 ÷ 1=1666เหลือเศษ 0
1666 ÷ 2=833เหลือเศษ 0
1666 ÷ 7=238เหลือเศษ 0
1666 ÷ 14=119เหลือเศษ 0
1666 ÷ 17=98เหลือเศษ 0
1666 ÷ 34=49เหลือเศษ 0
1666 ÷ 49=34เหลือเศษ 0
1666 ÷ 98=17เหลือเศษ 0
1666 ÷ 119=14เหลือเศษ 0
1666 ÷ 238=7เหลือเศษ 0
1666 ÷ 833=2เหลือเศษ 0
1666 ÷ 1666=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1666
1 x 1666
2 x 833
7 x 238
14 x 119
17 x 98
34 x 49
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1666
1 + 2 + 7 + 14 + 17 + 34 + 49 + 98 + 119 + 238 + 833 + 1666 = 3078
ตัวประกอบของ 1666 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 17
การแยกตัวประกอบคืออะไร

1666 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

1666 = 2 x 7 x 7 x 17
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 1666 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1666 = 2 x 72 x 17
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 1666 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1666 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1666 มา 1 คู่ เช่น 2 x 833
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1666
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1666 แบบที่หนึ่ง
  • 1666
    • 34
      • 2
      • 17
    • 49
      • 7
      • 7

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1666 แบบที่สอง
  • 1666
    • 2
    • 833
      • 7
      • 119
        • 7
        • 17
ดังนั้น 1666 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1666 = 2 x 7 x 7 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1666 = 2 x 72 x 17 หรือ 21 x 72 x 171

2. การแยกตัวประกอบของ 1666 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 1666 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1666 นั้นก็คือ 2, 7, 17 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1666

2
)1666
7
)833
7
)119
17
)17
1
ดังนั้น 1666 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1666 = 2 x 7 x 7 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1666 = 2 x 72 x 17 หรือ 21 x 72 x 171

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1666

1แยกตัวประกอบของ 1666 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 72 x 171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1666 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1666 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇