ตัวประกอบของ 13166 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13166
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 13166 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 13166 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 13166 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 13166 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 13166 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 29, 58, 227, 454, 6583, 13166
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 13166 ÷ 1 | = | 13166 | เหลือเศษ 0 |
| 13166 ÷ 2 | = | 6583 | เหลือเศษ 0 |
| 13166 ÷ 29 | = | 454 | เหลือเศษ 0 |
| 13166 ÷ 58 | = | 227 | เหลือเศษ 0 |
| 13166 ÷ 227 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
| 13166 ÷ 454 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
| 13166 ÷ 6583 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 13166 ÷ 13166 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13166
| 1 x 13166 | = | 13166 |
| 2 x 6583 | = | 13166 |
| 29 x 454 | = | 13166 |
| 58 x 227 | = | 13166 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13166
1 + 2 + 29 + 58 + 227 + 454 + 6583 + 13166 = 20520
▶ ตัวประกอบของ 13166 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 29, 227
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 13166 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13166 = 2 x 29 x 227
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 13166 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13166 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13166 มา 1 คู่ เช่น 2 x 6583
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13166
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13166 แบบที่หนึ่ง
- 13166
- 58
- 2
- 29
- 227
- 58
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13166 แบบที่สอง
- 13166
- 2
- 6583
- 29
- 227
ดังนั้น 13166 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13166 =
2 x 29 x 227
2. การแยกตัวประกอบของ 13166 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 13166 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13166 นั้นก็คือ 2, 29, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13166
2)1316629)6583227)2271ดังนั้น 13166 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้13166 = 2 x 29 x 227วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13166
1แยกตัวประกอบของ 13166 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 291 x 22712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13166 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 13166 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13166 นั้นก็คือ 2, 29, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13166
2
)13166
29
)6583
227
)227
1
ดังนั้น 13166 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13166 = 2 x 29 x 227
1แยกตัวประกอบของ 13166 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 291 x 2271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13166 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13166 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇