ตัวประกอบของ 13165 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13165
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 13165 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 13165 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 13165 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 13165 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 13165 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 5, 2633, 13165
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 13165 ÷ 1 | = | 13165 | เหลือเศษ 0 |
| 13165 ÷ 5 | = | 2633 | เหลือเศษ 0 |
| 13165 ÷ 2633 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 13165 ÷ 13165 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13165
| 1 x 13165 | = | 13165 |
| 5 x 2633 | = | 13165 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13165
1 + 5 + 2633 + 13165 = 15804
▶ ตัวประกอบของ 13165 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 2633
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 13165 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13165 = 5 x 2633
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 13165 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13165 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13165 มา 1 คู่ เช่น 5 x 2633
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13165
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13165
- 13165
- 5
- 2633
ดังนั้น 13165 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13165 =
5 x 2633
2. การแยกตัวประกอบของ 13165 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 13165 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13165 นั้นก็คือ 5, 2633 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13165
5)131652633)26331ดังนั้น 13165 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้13165 = 5 x 2633วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13165
1แยกตัวประกอบของ 13165 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 263312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2633 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13165 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 13165 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13165 นั้นก็คือ 5, 2633 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13165
5
)13165
2633
)2633
1
ดังนั้น 13165 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13165 = 5 x 2633
1แยกตัวประกอบของ 13165 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 26331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2633 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13165 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13165 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
