โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 13158 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13158

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 13158 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 13158 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 17, 18, 34, 43, 51, 86, 102, 129, 153, 258, 306, 387, 731, 774, 1462, 2193, 4386, 6579, 13158
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
13158 ÷ 1=13158เหลือเศษ 0
13158 ÷ 2=6579เหลือเศษ 0
13158 ÷ 3=4386เหลือเศษ 0
13158 ÷ 6=2193เหลือเศษ 0
13158 ÷ 9=1462เหลือเศษ 0
13158 ÷ 17=774เหลือเศษ 0
13158 ÷ 18=731เหลือเศษ 0
13158 ÷ 34=387เหลือเศษ 0
13158 ÷ 43=306เหลือเศษ 0
13158 ÷ 51=258เหลือเศษ 0
13158 ÷ 86=153เหลือเศษ 0
13158 ÷ 102=129เหลือเศษ 0
13158 ÷ 129=102เหลือเศษ 0
13158 ÷ 153=86เหลือเศษ 0
13158 ÷ 258=51เหลือเศษ 0
13158 ÷ 306=43เหลือเศษ 0
13158 ÷ 387=34เหลือเศษ 0
13158 ÷ 731=18เหลือเศษ 0
13158 ÷ 774=17เหลือเศษ 0
13158 ÷ 1462=9เหลือเศษ 0
13158 ÷ 2193=6เหลือเศษ 0
13158 ÷ 4386=3เหลือเศษ 0
13158 ÷ 6579=2เหลือเศษ 0
13158 ÷ 13158=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13158
1 x 13158
2 x 6579
3 x 4386
6 x 2193
9 x 1462
17 x 774
18 x 731
34 x 387
43 x 306
51 x 258
86 x 153
102 x 129
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13158
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 17 + 18 + 34 + 43 + 51 + 86 + 102 + 129 + 153 + 258 + 306 + 387 + 731 + 774 + 1462 + 2193 + 4386 + 6579 + 13158 = 30888
ตัวประกอบของ 13158 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 17, 43
การแยกตัวประกอบคืออะไร

13158 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

13158 = 2 x 3 x 3 x 17 x 43
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 13158 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
13158 = 2 x 32 x 17 x 43
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 13158 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13158 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13158 มา 1 คู่ เช่น 2 x 6579
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13158
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13158 แบบที่หนึ่ง
  • 13158
    • 102
      • 6
        • 2
        • 3
      • 17
    • 129
      • 3
      • 43

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13158 แบบที่สอง
  • 13158
    • 2
    • 6579
      • 3
      • 2193
        • 3
        • 731
          • 17
          • 43
ดังนั้น 13158 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13158 = 2 x 3 x 3 x 17 x 43
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13158 = 2 x 32 x 17 x 43 หรือ 21 x 32 x 171 x 431

2. การแยกตัวประกอบของ 13158 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 13158 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13158 นั้นก็คือ 2, 3, 17, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13158

2
)13158
3
)6579
3
)2193
17
)731
43
)43
1
ดังนั้น 13158 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13158 = 2 x 3 x 3 x 17 x 43
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13158 = 2 x 32 x 17 x 43 หรือ 21 x 32 x 171 x 431

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13158

1แยกตัวประกอบของ 13158 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 171 x 431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13158 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13158 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇