ตัวประกอบของ 1017 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1017
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1017 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1017 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1017 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1017 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1017 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 113, 339, 1017
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1017 ÷ 1 | = | 1017 | เหลือเศษ 0 |
1017 ÷ 3 | = | 339 | เหลือเศษ 0 |
1017 ÷ 9 | = | 113 | เหลือเศษ 0 |
1017 ÷ 113 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
1017 ÷ 339 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
1017 ÷ 1017 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1017
1 x 1017 | = | 1017 |
3 x 339 | = | 1017 |
9 x 113 | = | 1017 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1017
1 + 3 + 9 + 113 + 339 + 1017 = 1482
▶ ตัวประกอบของ 1017 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 113
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1017 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1017 = 3 x 3 x 113
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1017 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1017 = 32 x 113
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1017 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1017 = 32 x 113
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1017 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1017 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1017 มา 1 คู่ เช่น 3 x 339
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1017
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1017 แบบที่หนึ่ง
- 1017
- 9
- 3
- 3
- 113
- 9
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1017 แบบที่สอง
- 1017
- 3
- 339
- 3
- 113
ดังนั้น 1017 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1017 =
3 x 3 x 113
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1017 =
32 x 113 หรือ 32 x 1131
2. การแยกตัวประกอบของ 1017 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1017 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1017 นั้นก็คือ 3, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1017
3)10173)339113)1131ดังนั้น 1017 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1017 = 3 x 3 x 113หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง1017 = 32 x 113 หรือ 32 x 1131วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1017
1แยกตัวประกอบของ 1017 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 11312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1017 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1017 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1017 นั้นก็คือ 3, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1017
3
)1017
3
)339
113
)113
1
ดังนั้น 1017 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1017 = 3 x 3 x 113
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1017 = 32 x 113 หรือ 32 x 1131
1แยกตัวประกอบของ 1017 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 1131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1017 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1017 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇