ตัวประกอบของ 68497 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68497
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68497 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68497 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68497 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68497 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68497 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 13, 143, 479, 5269, 6227, 68497
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68497 ÷ 1 | = | 68497 | เหลือเศษ 0 |
68497 ÷ 11 | = | 6227 | เหลือเศษ 0 |
68497 ÷ 13 | = | 5269 | เหลือเศษ 0 |
68497 ÷ 143 | = | 479 | เหลือเศษ 0 |
68497 ÷ 479 | = | 143 | เหลือเศษ 0 |
68497 ÷ 5269 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
68497 ÷ 6227 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
68497 ÷ 68497 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68497
1 x 68497 | = | 68497 |
11 x 6227 | = | 68497 |
13 x 5269 | = | 68497 |
143 x 479 | = | 68497 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68497
1 + 11 + 13 + 143 + 479 + 5269 + 6227 + 68497 = 80640
▶ ตัวประกอบของ 68497 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 13, 479
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68497 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68497 = 11 x 13 x 479
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68497 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68497 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68497 มา 1 คู่ เช่น 11 x 6227
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68497
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68497 แบบที่หนึ่ง
- 68497
- 143
- 11
- 13
- 479
- 143
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68497 แบบที่สอง
- 68497
- 11
- 6227
- 13
- 479
ดังนั้น 68497 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68497 =
11 x 13 x 479
2. การแยกตัวประกอบของ 68497 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68497 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68497 นั้นก็คือ 11, 13, 479 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68497
11)6849713)6227479)4791ดังนั้น 68497 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68497 = 11 x 13 x 479วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68497
1แยกตัวประกอบของ 68497 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 47912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 479 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68497 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68497 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68497 นั้นก็คือ 11, 13, 479 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68497
11
)68497
13
)6227
479
)479
1
ดังนั้น 68497 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68497 = 11 x 13 x 479
1แยกตัวประกอบของ 68497 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 4791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 479 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68497 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68497 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇