ตัวประกอบของ 68502 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68502
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68502 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68502 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68502 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68502 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68502 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 7, 14, 21, 42, 49, 98, 147, 233, 294, 466, 699, 1398, 1631, 3262, 4893, 9786, 11417, 22834, 34251, 68502
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68502 ÷ 1 | = | 68502 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 2 | = | 34251 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 3 | = | 22834 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 6 | = | 11417 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 7 | = | 9786 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 14 | = | 4893 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 21 | = | 3262 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 42 | = | 1631 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 49 | = | 1398 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 98 | = | 699 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 147 | = | 466 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 233 | = | 294 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 294 | = | 233 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 466 | = | 147 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 699 | = | 98 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 1398 | = | 49 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 1631 | = | 42 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 3262 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 4893 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 9786 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 11417 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 22834 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 34251 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68502 ÷ 68502 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68502
1 x 68502 | = | 68502 |
2 x 34251 | = | 68502 |
3 x 22834 | = | 68502 |
6 x 11417 | = | 68502 |
7 x 9786 | = | 68502 |
14 x 4893 | = | 68502 |
21 x 3262 | = | 68502 |
42 x 1631 | = | 68502 |
49 x 1398 | = | 68502 |
98 x 699 | = | 68502 |
147 x 466 | = | 68502 |
233 x 294 | = | 68502 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68502
1 + 2 + 3 + 6 + 7 + 14 + 21 + 42 + 49 + 98 + 147 + 233 + 294 + 466 + 699 + 1398 + 1631 + 3262 + 4893 + 9786 + 11417 + 22834 + 34251 + 68502 = 160056
▶ ตัวประกอบของ 68502 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 7, 233
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68502 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68502 = 2 x 3 x 7 x 7 x 233
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68502 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68502 = 2 x 3 x 72 x 233
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68502 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68502 = 2 x 3 x 72 x 233
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68502 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68502 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68502 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34251
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68502
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68502 แบบที่หนึ่ง
- 68502
- 233
- 294
- 14
- 2
- 7
- 21
- 3
- 7
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68502 แบบที่สอง
- 68502
- 2
- 34251
- 3
- 11417
- 7
- 1631
- 7
- 233
ดังนั้น 68502 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68502 =
2 x 3 x 7 x 7 x 233
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68502 =
2 x 3 x 72 x 233 หรือ 21 x 31 x 72 x 2331
2. การแยกตัวประกอบของ 68502 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68502 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68502 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 233 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68502
2)685023)342517)114177)1631233)2331ดังนั้น 68502 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68502 = 2 x 3 x 7 x 7 x 233หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง68502 = 2 x 3 x 72 x 233 หรือ 21 x 31 x 72 x 2331วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68502
1แยกตัวประกอบของ 68502 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 72 x 23312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 233 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 3 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68502 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68502 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68502 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 233 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68502
2
)68502
3
)34251
7
)11417
7
)1631
233
)233
1
ดังนั้น 68502 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68502 = 2 x 3 x 7 x 7 x 233
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68502 = 2 x 3 x 72 x 233 หรือ 21 x 31 x 72 x 2331
1แยกตัวประกอบของ 68502 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 72 x 2331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 233 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 3 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68502 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68502 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇