โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68488 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68488

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68488 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68488 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 1223, 2446, 4892, 8561, 9784, 17122, 34244, 68488
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68488 ÷ 1=68488เหลือเศษ 0
68488 ÷ 2=34244เหลือเศษ 0
68488 ÷ 4=17122เหลือเศษ 0
68488 ÷ 7=9784เหลือเศษ 0
68488 ÷ 8=8561เหลือเศษ 0
68488 ÷ 14=4892เหลือเศษ 0
68488 ÷ 28=2446เหลือเศษ 0
68488 ÷ 56=1223เหลือเศษ 0
68488 ÷ 1223=56เหลือเศษ 0
68488 ÷ 2446=28เหลือเศษ 0
68488 ÷ 4892=14เหลือเศษ 0
68488 ÷ 8561=8เหลือเศษ 0
68488 ÷ 9784=7เหลือเศษ 0
68488 ÷ 17122=4เหลือเศษ 0
68488 ÷ 34244=2เหลือเศษ 0
68488 ÷ 68488=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68488
1 x 68488
2 x 34244
4 x 17122
7 x 9784
8 x 8561
14 x 4892
28 x 2446
56 x 1223
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68488
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 1223 + 2446 + 4892 + 8561 + 9784 + 17122 + 34244 + 68488 = 146880
ตัวประกอบของ 68488 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 1223
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68488 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1223
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68488 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68488 = 23 x 7 x 1223
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68488 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68488 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68488 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34244
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68488
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68488 แบบที่หนึ่ง
  • 68488
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 1223

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68488 แบบที่สอง
  • 68488
    • 2
    • 34244
      • 2
      • 17122
        • 2
        • 8561
          • 7
          • 1223
ดังนั้น 68488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68488 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1223
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68488 = 23 x 7 x 1223 หรือ 23 x 71 x 12231

2. การแยกตัวประกอบของ 68488 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68488 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68488 นั้นก็คือ 2, 7, 1223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68488

2
)68488
2
)34244
2
)17122
7
)8561
1223
)1223
1
ดังนั้น 68488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68488 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1223
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68488 = 23 x 7 x 1223 หรือ 23 x 71 x 12231

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68488

1แยกตัวประกอบของ 68488 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 12231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68488 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68488 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇