โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68456 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68456

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68456 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68456 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 43, 86, 172, 199, 344, 398, 796, 1592, 8557, 17114, 34228, 68456
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68456 ÷ 1=68456เหลือเศษ 0
68456 ÷ 2=34228เหลือเศษ 0
68456 ÷ 4=17114เหลือเศษ 0
68456 ÷ 8=8557เหลือเศษ 0
68456 ÷ 43=1592เหลือเศษ 0
68456 ÷ 86=796เหลือเศษ 0
68456 ÷ 172=398เหลือเศษ 0
68456 ÷ 199=344เหลือเศษ 0
68456 ÷ 344=199เหลือเศษ 0
68456 ÷ 398=172เหลือเศษ 0
68456 ÷ 796=86เหลือเศษ 0
68456 ÷ 1592=43เหลือเศษ 0
68456 ÷ 8557=8เหลือเศษ 0
68456 ÷ 17114=4เหลือเศษ 0
68456 ÷ 34228=2เหลือเศษ 0
68456 ÷ 68456=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68456
1 x 68456
2 x 34228
4 x 17114
8 x 8557
43 x 1592
86 x 796
172 x 398
199 x 344
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68456
1 + 2 + 4 + 8 + 43 + 86 + 172 + 199 + 344 + 398 + 796 + 1592 + 8557 + 17114 + 34228 + 68456 = 132000
ตัวประกอบของ 68456 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 43, 199
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68456 = 2 x 2 x 2 x 43 x 199
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68456 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68456 = 23 x 43 x 199
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68456 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68456 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68456 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34228
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68456
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68456 แบบที่หนึ่ง
  • 68456
    • 199
    • 344
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 43

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68456 แบบที่สอง
  • 68456
    • 2
    • 34228
      • 2
      • 17114
        • 2
        • 8557
          • 43
          • 199
ดังนั้น 68456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68456 = 2 x 2 x 2 x 43 x 199
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68456 = 23 x 43 x 199 หรือ 23 x 431 x 1991

2. การแยกตัวประกอบของ 68456 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68456 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68456 นั้นก็คือ 2, 43, 199 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68456

2
)68456
2
)34228
2
)17114
43
)8557
199
)199
1
ดังนั้น 68456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68456 = 2 x 2 x 2 x 43 x 199
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68456 = 23 x 43 x 199 หรือ 23 x 431 x 1991

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68456

1แยกตัวประกอบของ 68456 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 431 x 1991
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 199 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68456 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68456 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇