ตัวประกอบของ 68367 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68367
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68367 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68367 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68367 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68367 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68367 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 13, 39, 1753, 5259, 22789, 68367
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68367 ÷ 1 | = | 68367 | เหลือเศษ 0 |
68367 ÷ 3 | = | 22789 | เหลือเศษ 0 |
68367 ÷ 13 | = | 5259 | เหลือเศษ 0 |
68367 ÷ 39 | = | 1753 | เหลือเศษ 0 |
68367 ÷ 1753 | = | 39 | เหลือเศษ 0 |
68367 ÷ 5259 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
68367 ÷ 22789 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
68367 ÷ 68367 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68367
1 x 68367 | = | 68367 |
3 x 22789 | = | 68367 |
13 x 5259 | = | 68367 |
39 x 1753 | = | 68367 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68367
1 + 3 + 13 + 39 + 1753 + 5259 + 22789 + 68367 = 98224
▶ ตัวประกอบของ 68367 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 1753
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68367 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68367 = 3 x 13 x 1753
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68367 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68367 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68367 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22789
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68367
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68367 แบบที่หนึ่ง
- 68367
- 39
- 3
- 13
- 1753
- 39
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68367 แบบที่สอง
- 68367
- 3
- 22789
- 13
- 1753
ดังนั้น 68367 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68367 =
3 x 13 x 1753
2. การแยกตัวประกอบของ 68367 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68367 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68367 นั้นก็คือ 3, 13, 1753 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68367
3)6836713)227891753)17531ดังนั้น 68367 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68367 = 3 x 13 x 1753วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68367
1แยกตัวประกอบของ 68367 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 175312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1753 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68367 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68367 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68367 นั้นก็คือ 3, 13, 1753 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68367
3
)68367
13
)22789
1753
)1753
1
ดังนั้น 68367 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68367 = 3 x 13 x 1753
1แยกตัวประกอบของ 68367 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 17531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1753 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68367 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68367 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇