ตัวประกอบของ 68126 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68126
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68126 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68126 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68126 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68126 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68126 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 23, 46, 1481, 2962, 34063, 68126
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68126 ÷ 1 | = | 68126 | เหลือเศษ 0 |
68126 ÷ 2 | = | 34063 | เหลือเศษ 0 |
68126 ÷ 23 | = | 2962 | เหลือเศษ 0 |
68126 ÷ 46 | = | 1481 | เหลือเศษ 0 |
68126 ÷ 1481 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
68126 ÷ 2962 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
68126 ÷ 34063 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68126 ÷ 68126 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68126
1 x 68126 | = | 68126 |
2 x 34063 | = | 68126 |
23 x 2962 | = | 68126 |
46 x 1481 | = | 68126 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68126
1 + 2 + 23 + 46 + 1481 + 2962 + 34063 + 68126 = 106704
▶ ตัวประกอบของ 68126 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 1481
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68126 = 2 x 23 x 1481
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68126 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68126 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68126 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34063
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68126
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68126 แบบที่หนึ่ง
- 68126
- 46
- 2
- 23
- 1481
- 46
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68126 แบบที่สอง
- 68126
- 2
- 34063
- 23
- 1481
ดังนั้น 68126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68126 =
2 x 23 x 1481
2. การแยกตัวประกอบของ 68126 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68126 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68126 นั้นก็คือ 2, 23, 1481 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68126
2)6812623)340631481)14811ดังนั้น 68126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68126 = 2 x 23 x 1481วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68126
1แยกตัวประกอบของ 68126 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 148112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1481 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68126 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68126 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68126 นั้นก็คือ 2, 23, 1481 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68126
2
)68126
23
)34063
1481
)1481
1
ดังนั้น 68126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68126 = 2 x 23 x 1481
1แยกตัวประกอบของ 68126 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 14811
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1481 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68126 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68126 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇