โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65652 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65652

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65652 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65652 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 5471, 10942, 16413, 21884, 32826, 65652
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65652 ÷ 1=65652เหลือเศษ 0
65652 ÷ 2=32826เหลือเศษ 0
65652 ÷ 3=21884เหลือเศษ 0
65652 ÷ 4=16413เหลือเศษ 0
65652 ÷ 6=10942เหลือเศษ 0
65652 ÷ 12=5471เหลือเศษ 0
65652 ÷ 5471=12เหลือเศษ 0
65652 ÷ 10942=6เหลือเศษ 0
65652 ÷ 16413=4เหลือเศษ 0
65652 ÷ 21884=3เหลือเศษ 0
65652 ÷ 32826=2เหลือเศษ 0
65652 ÷ 65652=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65652
1 x 65652
2 x 32826
3 x 21884
4 x 16413
6 x 10942
12 x 5471
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65652
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 5471 + 10942 + 16413 + 21884 + 32826 + 65652 = 153216
ตัวประกอบของ 65652 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 5471
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65652 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65652 = 2 x 2 x 3 x 5471
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65652 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65652 = 22 x 3 x 5471
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65652 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65652 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65652 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32826
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65652
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65652 แบบที่หนึ่ง
  • 65652
    • 12
      • 3
      • 4
        • 2
        • 2
    • 5471

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65652 แบบที่สอง
  • 65652
    • 2
    • 32826
      • 2
      • 16413
        • 3
        • 5471
ดังนั้น 65652 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65652 = 2 x 2 x 3 x 5471
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65652 = 22 x 3 x 5471 หรือ 22 x 31 x 54711

2. การแยกตัวประกอบของ 65652 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65652 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65652 นั้นก็คือ 2, 3, 5471 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65652

2
)65652
2
)32826
3
)16413
5471
)5471
1
ดังนั้น 65652 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65652 = 2 x 2 x 3 x 5471
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65652 = 22 x 3 x 5471 หรือ 22 x 31 x 54711

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65652

1แยกตัวประกอบของ 65652 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 54711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5471 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65652 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65652 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇