ตัวประกอบของ 65642 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65642
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65642 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65642 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65642 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65642 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65642 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 23, 46, 1427, 2854, 32821, 65642
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65642 ÷ 1 | = | 65642 | เหลือเศษ 0 |
65642 ÷ 2 | = | 32821 | เหลือเศษ 0 |
65642 ÷ 23 | = | 2854 | เหลือเศษ 0 |
65642 ÷ 46 | = | 1427 | เหลือเศษ 0 |
65642 ÷ 1427 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
65642 ÷ 2854 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
65642 ÷ 32821 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65642 ÷ 65642 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65642
1 x 65642 | = | 65642 |
2 x 32821 | = | 65642 |
23 x 2854 | = | 65642 |
46 x 1427 | = | 65642 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65642
1 + 2 + 23 + 46 + 1427 + 2854 + 32821 + 65642 = 102816
▶ ตัวประกอบของ 65642 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 1427
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65642 = 2 x 23 x 1427
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65642 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65642 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65642 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32821
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65642
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65642 แบบที่หนึ่ง
- 65642
- 46
- 2
- 23
- 1427
- 46
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65642 แบบที่สอง
- 65642
- 2
- 32821
- 23
- 1427
ดังนั้น 65642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65642 =
2 x 23 x 1427
2. การแยกตัวประกอบของ 65642 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65642 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65642 นั้นก็คือ 2, 23, 1427 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65642
2)6564223)328211427)14271ดังนั้น 65642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65642 = 2 x 23 x 1427วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65642
1แยกตัวประกอบของ 65642 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 142712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1427 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65642 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65642 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65642 นั้นก็คือ 2, 23, 1427 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65642
2
)65642
23
)32821
1427
)1427
1
ดังนั้น 65642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65642 = 2 x 23 x 1427
1แยกตัวประกอบของ 65642 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 14271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1427 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65642 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65642 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇