ตัวประกอบของ 65646 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65646
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65646 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65646 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65646 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65646 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65646 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 7, 9, 14, 18, 21, 42, 63, 126, 521, 1042, 1563, 3126, 3647, 4689, 7294, 9378, 10941, 21882, 32823, 65646
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65646 ÷ 1 | = | 65646 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 2 | = | 32823 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 3 | = | 21882 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 6 | = | 10941 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 7 | = | 9378 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 9 | = | 7294 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 14 | = | 4689 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 18 | = | 3647 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 21 | = | 3126 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 42 | = | 1563 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 63 | = | 1042 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 126 | = | 521 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 521 | = | 126 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 1042 | = | 63 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 1563 | = | 42 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 3126 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 3647 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 4689 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 7294 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 9378 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 10941 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 21882 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 32823 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65646 ÷ 65646 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65646
1 x 65646 | = | 65646 |
2 x 32823 | = | 65646 |
3 x 21882 | = | 65646 |
6 x 10941 | = | 65646 |
7 x 9378 | = | 65646 |
9 x 7294 | = | 65646 |
14 x 4689 | = | 65646 |
18 x 3647 | = | 65646 |
21 x 3126 | = | 65646 |
42 x 1563 | = | 65646 |
63 x 1042 | = | 65646 |
126 x 521 | = | 65646 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65646
1 + 2 + 3 + 6 + 7 + 9 + 14 + 18 + 21 + 42 + 63 + 126 + 521 + 1042 + 1563 + 3126 + 3647 + 4689 + 7294 + 9378 + 10941 + 21882 + 32823 + 65646 = 162864
▶ ตัวประกอบของ 65646 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 7, 521
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65646 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65646 = 2 x 3 x 3 x 7 x 521
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65646 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65646 = 2 x 32 x 7 x 521
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65646 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65646 = 2 x 32 x 7 x 521
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65646 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65646 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65646 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32823
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65646
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65646 แบบที่หนึ่ง
- 65646
- 126
- 9
- 3
- 3
- 14
- 2
- 7
- 9
- 521
- 126
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65646 แบบที่สอง
- 65646
- 2
- 32823
- 3
- 10941
- 3
- 3647
- 7
- 521
ดังนั้น 65646 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65646 =
2 x 3 x 3 x 7 x 521
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65646 =
2 x 32 x 7 x 521 หรือ 21 x 32 x 71 x 5211
2. การแยกตัวประกอบของ 65646 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65646 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65646 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 521 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65646
2)656463)328233)109417)3647521)5211ดังนั้น 65646 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65646 = 2 x 3 x 3 x 7 x 521หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง65646 = 2 x 32 x 7 x 521 หรือ 21 x 32 x 71 x 5211วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65646
1แยกตัวประกอบของ 65646 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 71 x 52112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 521 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65646 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65646 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65646 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 521 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65646
2
)65646
3
)32823
3
)10941
7
)3647
521
)521
1
ดังนั้น 65646 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65646 = 2 x 3 x 3 x 7 x 521
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65646 = 2 x 32 x 7 x 521 หรือ 21 x 32 x 71 x 5211
1แยกตัวประกอบของ 65646 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 71 x 5211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 521 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65646 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65646 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇