ตัวประกอบของ 65500 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65500
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65500 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65500 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65500 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65500 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65500 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 25, 50, 100, 125, 131, 250, 262, 500, 524, 655, 1310, 2620, 3275, 6550, 13100, 16375, 32750, 65500
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65500 ÷ 1 | = | 65500 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 2 | = | 32750 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 4 | = | 16375 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 5 | = | 13100 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 10 | = | 6550 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 20 | = | 3275 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 25 | = | 2620 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 50 | = | 1310 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 100 | = | 655 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 125 | = | 524 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 131 | = | 500 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 250 | = | 262 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 262 | = | 250 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 500 | = | 131 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 524 | = | 125 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 655 | = | 100 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 1310 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 2620 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 3275 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 6550 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 13100 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 16375 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 32750 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65500 ÷ 65500 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65500
1 x 65500 | = | 65500 |
2 x 32750 | = | 65500 |
4 x 16375 | = | 65500 |
5 x 13100 | = | 65500 |
10 x 6550 | = | 65500 |
20 x 3275 | = | 65500 |
25 x 2620 | = | 65500 |
50 x 1310 | = | 65500 |
100 x 655 | = | 65500 |
125 x 524 | = | 65500 |
131 x 500 | = | 65500 |
250 x 262 | = | 65500 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65500
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 25 + 50 + 100 + 125 + 131 + 250 + 262 + 500 + 524 + 655 + 1310 + 2620 + 3275 + 6550 + 13100 + 16375 + 32750 + 65500 = 144144
▶ ตัวประกอบของ 65500 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 131
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65500 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65500 = 2 x 2 x 5 x 5 x 5 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65500 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65500 = 22 x 53 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65500 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65500 = 22 x 53 x 131
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65500 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65500 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65500 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32750
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65500
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65500 แบบที่หนึ่ง
- 65500
- 250
- 10
- 2
- 5
- 25
- 5
- 5
- 10
- 262
- 2
- 131
- 250
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65500 แบบที่สอง
- 65500
- 2
- 32750
- 2
- 16375
- 5
- 3275
- 5
- 655
- 5
- 131
ดังนั้น 65500 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65500 =
2 x 2 x 5 x 5 x 5 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65500 =
22 x 53 x 131 หรือ 22 x 53 x 1311
2. การแยกตัวประกอบของ 65500 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65500 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65500 นั้นก็คือ 2, 5, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65500
2)655002)327505)163755)32755)655131)1311ดังนั้น 65500 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65500 = 2 x 2 x 5 x 5 x 5 x 131หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง65500 = 22 x 53 x 131 หรือ 22 x 53 x 1311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65500
1แยกตัวประกอบของ 65500 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 53 x 13112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 4 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65500 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65500 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65500 นั้นก็คือ 2, 5, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65500
2
)65500
2
)32750
5
)16375
5
)3275
5
)655
131
)131
1
ดังนั้น 65500 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65500 = 2 x 2 x 5 x 5 x 5 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65500 = 22 x 53 x 131 หรือ 22 x 53 x 1311
1แยกตัวประกอบของ 65500 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 53 x 1311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 4 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65500 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65500 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇