โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65496 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65496

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65496 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65496 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 2729, 5458, 8187, 10916, 16374, 21832, 32748, 65496
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65496 ÷ 1=65496เหลือเศษ 0
65496 ÷ 2=32748เหลือเศษ 0
65496 ÷ 3=21832เหลือเศษ 0
65496 ÷ 4=16374เหลือเศษ 0
65496 ÷ 6=10916เหลือเศษ 0
65496 ÷ 8=8187เหลือเศษ 0
65496 ÷ 12=5458เหลือเศษ 0
65496 ÷ 24=2729เหลือเศษ 0
65496 ÷ 2729=24เหลือเศษ 0
65496 ÷ 5458=12เหลือเศษ 0
65496 ÷ 8187=8เหลือเศษ 0
65496 ÷ 10916=6เหลือเศษ 0
65496 ÷ 16374=4เหลือเศษ 0
65496 ÷ 21832=3เหลือเศษ 0
65496 ÷ 32748=2เหลือเศษ 0
65496 ÷ 65496=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65496
1 x 65496
2 x 32748
3 x 21832
4 x 16374
6 x 10916
8 x 8187
12 x 5458
24 x 2729
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65496
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 2729 + 5458 + 8187 + 10916 + 16374 + 21832 + 32748 + 65496 = 163800
ตัวประกอบของ 65496 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 2729
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2729
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65496 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65496 = 23 x 3 x 2729
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65496 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65496 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65496 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32748
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65496
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65496 แบบที่หนึ่ง
  • 65496
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 2729

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65496 แบบที่สอง
  • 65496
    • 2
    • 32748
      • 2
      • 16374
        • 2
        • 8187
          • 3
          • 2729
ดังนั้น 65496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2729
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65496 = 23 x 3 x 2729 หรือ 23 x 31 x 27291

2. การแยกตัวประกอบของ 65496 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65496 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65496 นั้นก็คือ 2, 3, 2729 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65496

2
)65496
2
)32748
2
)16374
3
)8187
2729
)2729
1
ดังนั้น 65496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2729
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65496 = 23 x 3 x 2729 หรือ 23 x 31 x 27291

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65496

1แยกตัวประกอบของ 65496 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 27291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 2729 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65496 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65496 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇