ตัวประกอบของ 65477 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65477
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65477 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65477 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65477 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65477 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65477 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 41, 1597, 65477
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65477 ÷ 1 | = | 65477 | เหลือเศษ 0 |
65477 ÷ 41 | = | 1597 | เหลือเศษ 0 |
65477 ÷ 1597 | = | 41 | เหลือเศษ 0 |
65477 ÷ 65477 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65477
1 x 65477 | = | 65477 |
41 x 1597 | = | 65477 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65477
1 + 41 + 1597 + 65477 = 67116
▶ ตัวประกอบของ 65477 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
41, 1597
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65477 = 41 x 1597
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65477 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65477 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65477 มา 1 คู่ เช่น 41 x 1597
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65477
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65477
- 65477
- 41
- 1597
ดังนั้น 65477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65477 =
41 x 1597
2. การแยกตัวประกอบของ 65477 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65477 นั้นก็คือ 41, 1597 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65477
41)654771597)15971ดังนั้น 65477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65477 = 41 x 1597วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65477
1แยกตัวประกอบของ 65477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 411 x 159712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1597 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65477 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65477 นั้นก็คือ 41, 1597 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65477
41
)65477
1597
)1597
1
ดังนั้น 65477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65477 = 41 x 1597
1แยกตัวประกอบของ 65477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 411 x 15971
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1597 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65477 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65477 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇