ตัวประกอบของ 95487 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 95487
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 95487 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 95487 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 95487 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 95487 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 95487 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 7, 21, 4547, 13641, 31829, 95487
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 95487 ÷ 1 | = | 95487 | เหลือเศษ 0 |
| 95487 ÷ 3 | = | 31829 | เหลือเศษ 0 |
| 95487 ÷ 7 | = | 13641 | เหลือเศษ 0 |
| 95487 ÷ 21 | = | 4547 | เหลือเศษ 0 |
| 95487 ÷ 4547 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
| 95487 ÷ 13641 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 95487 ÷ 31829 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 95487 ÷ 95487 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 95487
| 1 x 95487 | = | 95487 |
| 3 x 31829 | = | 95487 |
| 7 x 13641 | = | 95487 |
| 21 x 4547 | = | 95487 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 95487
1 + 3 + 7 + 21 + 4547 + 13641 + 31829 + 95487 = 145536
▶ ตัวประกอบของ 95487 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 7, 4547
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 95487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95487 = 3 x 7 x 4547
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 95487 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 95487 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 95487 มา 1 คู่ เช่น 3 x 31829
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95487
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95487 แบบที่หนึ่ง
- 95487
- 21
- 3
- 7
- 4547
- 21
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95487 แบบที่สอง
- 95487
- 3
- 31829
- 7
- 4547
ดังนั้น 95487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95487 =
3 x 7 x 4547
2. การแยกตัวประกอบของ 95487 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 95487 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95487 นั้นก็คือ 3, 7, 4547 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95487
3)954877)318294547)45471ดังนั้น 95487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้95487 = 3 x 7 x 4547วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 95487
1แยกตัวประกอบของ 95487 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 454712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4547 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95487 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 95487 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95487 นั้นก็คือ 3, 7, 4547 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95487
3
)95487
7
)31829
4547
)4547
1
ดังนั้น 95487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95487 = 3 x 7 x 4547
1แยกตัวประกอบของ 95487 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 45471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4547 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95487 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 95487 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
