ตัวประกอบของ 95484 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 95484
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 95484 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 95484 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 95484 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 95484 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 95484 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 73, 109, 146, 218, 219, 292, 327, 436, 438, 654, 876, 1308, 7957, 15914, 23871, 31828, 47742, 95484
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 95484 ÷ 1 | = | 95484 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 2 | = | 47742 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 3 | = | 31828 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 4 | = | 23871 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 6 | = | 15914 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 12 | = | 7957 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 73 | = | 1308 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 109 | = | 876 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 146 | = | 654 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 218 | = | 438 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 219 | = | 436 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 292 | = | 327 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 327 | = | 292 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 436 | = | 219 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 438 | = | 218 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 654 | = | 146 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 876 | = | 109 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 1308 | = | 73 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 7957 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 15914 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 23871 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 31828 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 47742 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 95484 ÷ 95484 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 95484
| 1 x 95484 | = | 95484 |
| 2 x 47742 | = | 95484 |
| 3 x 31828 | = | 95484 |
| 4 x 23871 | = | 95484 |
| 6 x 15914 | = | 95484 |
| 12 x 7957 | = | 95484 |
| 73 x 1308 | = | 95484 |
| 109 x 876 | = | 95484 |
| 146 x 654 | = | 95484 |
| 218 x 438 | = | 95484 |
| 219 x 436 | = | 95484 |
| 292 x 327 | = | 95484 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 95484
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 73 + 109 + 146 + 218 + 219 + 292 + 327 + 436 + 438 + 654 + 876 + 1308 + 7957 + 15914 + 23871 + 31828 + 47742 + 95484 = 227920
▶ ตัวประกอบของ 95484 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 73, 109
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 95484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95484 = 2 x 2 x 3 x 73 x 109
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 95484 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
95484 = 22 x 3 x 73 x 109
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 95484 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
95484 = 22 x 3 x 73 x 109
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 95484 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 95484 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 95484 มา 1 คู่ เช่น 2 x 47742
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95484
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95484 แบบที่หนึ่ง
- 95484
- 292
- 4
- 2
- 2
- 73
- 4
- 327
- 3
- 109
- 292
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95484 แบบที่สอง
- 95484
- 2
- 47742
- 2
- 23871
- 3
- 7957
- 73
- 109
ดังนั้น 95484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95484 =
2 x 2 x 3 x 73 x 109
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
95484 =
22 x 3 x 73 x 109 หรือ 22 x 31 x 731 x 1091
2. การแยกตัวประกอบของ 95484 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 95484 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95484 นั้นก็คือ 2, 3, 73, 109 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95484
2)954842)477423)2387173)7957109)1091ดังนั้น 95484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้95484 = 2 x 2 x 3 x 73 x 109หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง95484 = 22 x 3 x 73 x 109 หรือ 22 x 31 x 731 x 1091วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 95484
1แยกตัวประกอบของ 95484 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 731 x 10912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 109 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95484 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 95484 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95484 นั้นก็คือ 2, 3, 73, 109 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95484
2
)95484
2
)47742
3
)23871
73
)7957
109
)109
1
ดังนั้น 95484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95484 = 2 x 2 x 3 x 73 x 109
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
95484 = 22 x 3 x 73 x 109 หรือ 22 x 31 x 731 x 1091
1แยกตัวประกอบของ 95484 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 731 x 1091
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 109 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95484 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 95484 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
