ตัวประกอบของ 9514 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9514
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9514 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9514 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9514 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9514 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9514 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 67, 71, 134, 142, 4757, 9514
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9514 ÷ 1 | = | 9514 | เหลือเศษ 0 |
9514 ÷ 2 | = | 4757 | เหลือเศษ 0 |
9514 ÷ 67 | = | 142 | เหลือเศษ 0 |
9514 ÷ 71 | = | 134 | เหลือเศษ 0 |
9514 ÷ 134 | = | 71 | เหลือเศษ 0 |
9514 ÷ 142 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
9514 ÷ 4757 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
9514 ÷ 9514 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9514
1 x 9514 | = | 9514 |
2 x 4757 | = | 9514 |
67 x 142 | = | 9514 |
71 x 134 | = | 9514 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9514
1 + 2 + 67 + 71 + 134 + 142 + 4757 + 9514 = 14688
▶ ตัวประกอบของ 9514 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 67, 71
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9514 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9514 = 2 x 67 x 71
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9514 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9514 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9514 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4757
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9514
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9514 แบบที่หนึ่ง
- 9514
- 71
- 134
- 2
- 67
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9514 แบบที่สอง
- 9514
- 2
- 4757
- 67
- 71
ดังนั้น 9514 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9514 =
2 x 67 x 71
2. การแยกตัวประกอบของ 9514 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9514 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9514 นั้นก็คือ 2, 67, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9514
2)951467)475771)711ดังนั้น 9514 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9514 = 2 x 67 x 71วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9514
1แยกตัวประกอบของ 9514 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 671 x 7112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9514 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9514 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9514 นั้นก็คือ 2, 67, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9514
2
)9514
67
)4757
71
)71
1
ดังนั้น 9514 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9514 = 2 x 67 x 71
1แยกตัวประกอบของ 9514 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 671 x 711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9514 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9514 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇