ตัวประกอบของ 95102 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 95102
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 95102 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 95102 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 95102 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 95102 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 95102 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 6793, 13586, 47551, 95102
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
95102 ÷ 1 | = | 95102 | เหลือเศษ 0 |
95102 ÷ 2 | = | 47551 | เหลือเศษ 0 |
95102 ÷ 7 | = | 13586 | เหลือเศษ 0 |
95102 ÷ 14 | = | 6793 | เหลือเศษ 0 |
95102 ÷ 6793 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
95102 ÷ 13586 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
95102 ÷ 47551 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
95102 ÷ 95102 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 95102
1 x 95102 | = | 95102 |
2 x 47551 | = | 95102 |
7 x 13586 | = | 95102 |
14 x 6793 | = | 95102 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 95102
1 + 2 + 7 + 14 + 6793 + 13586 + 47551 + 95102 = 163056
▶ ตัวประกอบของ 95102 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 6793
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 95102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95102 = 2 x 7 x 6793
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 95102 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 95102 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 95102 มา 1 คู่ เช่น 2 x 47551
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95102
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95102 แบบที่หนึ่ง
- 95102
- 14
- 2
- 7
- 6793
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95102 แบบที่สอง
- 95102
- 2
- 47551
- 7
- 6793
ดังนั้น 95102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95102 =
2 x 7 x 6793
2. การแยกตัวประกอบของ 95102 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 95102 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95102 นั้นก็คือ 2, 7, 6793 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95102
2)951027)475516793)67931ดังนั้น 95102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้95102 = 2 x 7 x 6793วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 95102
1แยกตัวประกอบของ 95102 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 679312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6793 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95102 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 95102 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95102 นั้นก็คือ 2, 7, 6793 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95102
2
)95102
7
)47551
6793
)6793
1
ดังนั้น 95102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95102 = 2 x 7 x 6793
1แยกตัวประกอบของ 95102 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 67931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6793 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95102 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 95102 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇