ตัวประกอบของ 847 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 847
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 847 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 847 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 847 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 847 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 847 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 7, 11, 77, 121, 847
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
847 ÷ 1 | = | 847 | เหลือเศษ 0 |
847 ÷ 7 | = | 121 | เหลือเศษ 0 |
847 ÷ 11 | = | 77 | เหลือเศษ 0 |
847 ÷ 77 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
847 ÷ 121 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
847 ÷ 847 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 847
1 x 847 | = | 847 |
7 x 121 | = | 847 |
11 x 77 | = | 847 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 847
1 + 7 + 11 + 77 + 121 + 847 = 1064
▶ ตัวประกอบของ 847 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
7, 11
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 847 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
847 = 7 x 11 x 11
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 847 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
847 = 7 x 112
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 847 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
847 = 7 x 112
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 847 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 847 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 847 มา 1 คู่ เช่น 7 x 121
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 847
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 847 แบบที่หนึ่ง
- 847
- 11
- 77
- 7
- 11
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 847 แบบที่สอง
- 847
- 7
- 121
- 11
- 11
ดังนั้น 847 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
847 =
7 x 11 x 11
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
847 =
7 x 112 หรือ 71 x 112
2. การแยกตัวประกอบของ 847 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 847 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 847 นั้นก็คือ 7, 11 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 847
7)84711)12111)111ดังนั้น 847 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้847 = 7 x 11 x 11หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง847 = 7 x 112 หรือ 71 x 112วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 847
1แยกตัวประกอบของ 847 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 1122ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 847 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 847 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 847 นั้นก็คือ 7, 11 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 847
7
)847
11
)121
11
)11
1
ดังนั้น 847 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
847 = 7 x 11 x 11
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
847 = 7 x 112 หรือ 71 x 112
1แยกตัวประกอบของ 847 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 112
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 847 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 847 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇