ตัวประกอบของ 8350 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8350
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8350 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8350 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8350 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8350 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8350 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 25, 50, 167, 334, 835, 1670, 4175, 8350
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 8350 ÷ 1 | = | 8350 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 2 | = | 4175 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 5 | = | 1670 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 10 | = | 835 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 25 | = | 334 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 50 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 167 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 334 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 835 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 1670 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 4175 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 8350 ÷ 8350 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8350
| 1 x 8350 | = | 8350 |
| 2 x 4175 | = | 8350 |
| 5 x 1670 | = | 8350 |
| 10 x 835 | = | 8350 |
| 25 x 334 | = | 8350 |
| 50 x 167 | = | 8350 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8350
1 + 2 + 5 + 10 + 25 + 50 + 167 + 334 + 835 + 1670 + 4175 + 8350 = 15624
▶ ตัวประกอบของ 8350 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8350 = 2 x 5 x 5 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8350 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8350 = 2 x 52 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8350 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8350 = 2 x 52 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8350 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8350 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8350 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4175
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8350
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8350 แบบที่หนึ่ง
- 8350
- 50
- 5
- 10
- 2
- 5
- 167
- 50
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8350 แบบที่สอง
- 8350
- 2
- 4175
- 5
- 835
- 5
- 167
ดังนั้น 8350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8350 =
2 x 5 x 5 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8350 =
2 x 52 x 167 หรือ 21 x 52 x 1671
2. การแยกตัวประกอบของ 8350 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8350 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8350 นั้นก็คือ 2, 5, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8350
2)83505)41755)835167)1671ดังนั้น 8350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8350 = 2 x 5 x 5 x 167หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง8350 = 2 x 52 x 167 หรือ 21 x 52 x 1671วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8350
1แยกตัวประกอบของ 8350 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8350 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8350 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8350 นั้นก็คือ 2, 5, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8350
2
)8350
5
)4175
5
)835
167
)167
1
ดังนั้น 8350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8350 = 2 x 5 x 5 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8350 = 2 x 52 x 167 หรือ 21 x 52 x 1671
1แยกตัวประกอบของ 8350 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8350 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8350 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇