ตัวประกอบของ 8338 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8338
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8338 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8338 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8338 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8338 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8338 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 11, 22, 379, 758, 4169, 8338
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8338 ÷ 1 | = | 8338 | เหลือเศษ 0 |
8338 ÷ 2 | = | 4169 | เหลือเศษ 0 |
8338 ÷ 11 | = | 758 | เหลือเศษ 0 |
8338 ÷ 22 | = | 379 | เหลือเศษ 0 |
8338 ÷ 379 | = | 22 | เหลือเศษ 0 |
8338 ÷ 758 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
8338 ÷ 4169 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8338 ÷ 8338 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8338
1 x 8338 | = | 8338 |
2 x 4169 | = | 8338 |
11 x 758 | = | 8338 |
22 x 379 | = | 8338 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8338
1 + 2 + 11 + 22 + 379 + 758 + 4169 + 8338 = 13680
▶ ตัวประกอบของ 8338 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 11, 379
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8338 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8338 = 2 x 11 x 379
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8338 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8338 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8338 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4169
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8338
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8338 แบบที่หนึ่ง
- 8338
- 22
- 2
- 11
- 379
- 22
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8338 แบบที่สอง
- 8338
- 2
- 4169
- 11
- 379
ดังนั้น 8338 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8338 =
2 x 11 x 379
2. การแยกตัวประกอบของ 8338 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8338 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8338 นั้นก็คือ 2, 11, 379 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8338
2)833811)4169379)3791ดังนั้น 8338 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8338 = 2 x 11 x 379วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8338
1แยกตัวประกอบของ 8338 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 111 x 37912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 379 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8338 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8338 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8338 นั้นก็คือ 2, 11, 379 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8338
2
)8338
11
)4169
379
)379
1
ดังนั้น 8338 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8338 = 2 x 11 x 379
1แยกตัวประกอบของ 8338 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 111 x 3791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 379 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8338 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8338 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇