ตัวประกอบของ 8156 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8156
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8156 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8156 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8156 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8156 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8156 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 2039, 4078, 8156
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8156 ÷ 1 | = | 8156 | เหลือเศษ 0 |
8156 ÷ 2 | = | 4078 | เหลือเศษ 0 |
8156 ÷ 4 | = | 2039 | เหลือเศษ 0 |
8156 ÷ 2039 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
8156 ÷ 4078 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8156 ÷ 8156 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8156
1 x 8156 | = | 8156 |
2 x 4078 | = | 8156 |
4 x 2039 | = | 8156 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8156
1 + 2 + 4 + 2039 + 4078 + 8156 = 14280
▶ ตัวประกอบของ 8156 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 2039
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8156 = 2 x 2 x 2039
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8156 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8156 = 22 x 2039
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8156 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8156 = 22 x 2039
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8156 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8156 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8156 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4078
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8156
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8156 แบบที่หนึ่ง
- 8156
- 4
- 2
- 2
- 2039
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8156 แบบที่สอง
- 8156
- 2
- 4078
- 2
- 2039
ดังนั้น 8156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8156 =
2 x 2 x 2039
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8156 =
22 x 2039 หรือ 22 x 20391
2. การแยกตัวประกอบของ 8156 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8156 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8156 นั้นก็คือ 2, 2039 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8156
2)81562)40782039)20391ดังนั้น 8156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8156 = 2 x 2 x 2039หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง8156 = 22 x 2039 หรือ 22 x 20391วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8156
1แยกตัวประกอบของ 8156 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 203912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 2039 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8156 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8156 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8156 นั้นก็คือ 2, 2039 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8156
2
)8156
2
)4078
2039
)2039
1
ดังนั้น 8156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8156 = 2 x 2 x 2039
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8156 = 22 x 2039 หรือ 22 x 20391
1แยกตัวประกอบของ 8156 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 20391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 2039 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8156 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8156 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇