ตัวประกอบของ 8153 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8153
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8153 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8153 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 8153 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8153 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8153 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 31, 263, 8153
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 8153 ÷ 1 | = | 8153 | เหลือเศษ 0 |
| 8153 ÷ 31 | = | 263 | เหลือเศษ 0 |
| 8153 ÷ 263 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
| 8153 ÷ 8153 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8153
| 1 x 8153 | = | 8153 |
| 31 x 263 | = | 8153 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8153
1 + 31 + 263 + 8153 = 8448
▶ ตัวประกอบของ 8153 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
31, 263
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8153 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8153 = 31 x 263
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8153 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8153 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8153 มา 1 คู่ เช่น 31 x 263
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8153
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8153
- 8153
- 31
- 263
ดังนั้น 8153 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8153 =
31 x 263
2. การแยกตัวประกอบของ 8153 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8153 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8153 นั้นก็คือ 31, 263 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8153
31)8153263)2631ดังนั้น 8153 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8153 = 31 x 263วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8153
1แยกตัวประกอบของ 8153 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 311 x 26312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 263 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8153 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8153 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8153 นั้นก็คือ 31, 263 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8153
31
)8153
263
)263
1
ดังนั้น 8153 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8153 = 31 x 263
1แยกตัวประกอบของ 8153 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 311 x 2631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 263 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8153 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8153 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇