ตัวประกอบของ 7083 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 7083
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 7083 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 7083 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 7083 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 7083 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 7083 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 787, 2361, 7083
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
7083 ÷ 1 | = | 7083 | เหลือเศษ 0 |
7083 ÷ 3 | = | 2361 | เหลือเศษ 0 |
7083 ÷ 9 | = | 787 | เหลือเศษ 0 |
7083 ÷ 787 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
7083 ÷ 2361 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
7083 ÷ 7083 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 7083
1 x 7083 | = | 7083 |
3 x 2361 | = | 7083 |
9 x 787 | = | 7083 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 7083
1 + 3 + 9 + 787 + 2361 + 7083 = 10244
▶ ตัวประกอบของ 7083 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 787
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 7083 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7083 = 3 x 3 x 787
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 7083 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
7083 = 32 x 787
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 7083 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
7083 = 32 x 787
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 7083 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 7083 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 7083 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2361
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7083
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 7083 แบบที่หนึ่ง
- 7083
- 9
- 3
- 3
- 787
- 9
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 7083 แบบที่สอง
- 7083
- 3
- 2361
- 3
- 787
ดังนั้น 7083 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7083 =
3 x 3 x 787
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
7083 =
32 x 787 หรือ 32 x 7871
2. การแยกตัวประกอบของ 7083 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 7083 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 7083 นั้นก็คือ 3, 787 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7083
3)70833)2361787)7871ดังนั้น 7083 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้7083 = 3 x 3 x 787หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง7083 = 32 x 787 หรือ 32 x 7871วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 7083
1แยกตัวประกอบของ 7083 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 78712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 787 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 7083 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 7083 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 7083 นั้นก็คือ 3, 787 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7083
3
)7083
3
)2361
787
)787
1
ดังนั้น 7083 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7083 = 3 x 3 x 787
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
7083 = 32 x 787 หรือ 32 x 7871
1แยกตัวประกอบของ 7083 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 7871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 787 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 7083 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 7083 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇