ตัวประกอบของ 69347 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69347
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 69347 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 69347 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 69347 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 69347 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 69347 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 31, 2237, 69347
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 69347 ÷ 1 | = | 69347 | เหลือเศษ 0 |
| 69347 ÷ 31 | = | 2237 | เหลือเศษ 0 |
| 69347 ÷ 2237 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
| 69347 ÷ 69347 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69347
| 1 x 69347 | = | 69347 |
| 31 x 2237 | = | 69347 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69347
1 + 31 + 2237 + 69347 = 71616
▶ ตัวประกอบของ 69347 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
31, 2237
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 69347 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69347 = 31 x 2237
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 69347 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69347 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69347 มา 1 คู่ เช่น 31 x 2237
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69347
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69347
- 69347
- 31
- 2237
ดังนั้น 69347 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69347 =
31 x 2237
2. การแยกตัวประกอบของ 69347 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 69347 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69347 นั้นก็คือ 31, 2237 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69347
31)693472237)22371ดังนั้น 69347 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้69347 = 31 x 2237วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69347
1แยกตัวประกอบของ 69347 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 311 x 223712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2237 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69347 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 69347 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69347 นั้นก็คือ 31, 2237 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69347
31
)69347
2237
)2237
1
ดังนั้น 69347 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69347 = 31 x 2237
1แยกตัวประกอบของ 69347 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 311 x 22371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2237 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69347 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69347 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇