โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68696 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68696

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68696 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68696 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 31, 62, 124, 248, 277, 554, 1108, 2216, 8587, 17174, 34348, 68696
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68696 ÷ 1=68696เหลือเศษ 0
68696 ÷ 2=34348เหลือเศษ 0
68696 ÷ 4=17174เหลือเศษ 0
68696 ÷ 8=8587เหลือเศษ 0
68696 ÷ 31=2216เหลือเศษ 0
68696 ÷ 62=1108เหลือเศษ 0
68696 ÷ 124=554เหลือเศษ 0
68696 ÷ 248=277เหลือเศษ 0
68696 ÷ 277=248เหลือเศษ 0
68696 ÷ 554=124เหลือเศษ 0
68696 ÷ 1108=62เหลือเศษ 0
68696 ÷ 2216=31เหลือเศษ 0
68696 ÷ 8587=8เหลือเศษ 0
68696 ÷ 17174=4เหลือเศษ 0
68696 ÷ 34348=2เหลือเศษ 0
68696 ÷ 68696=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68696
1 x 68696
2 x 34348
4 x 17174
8 x 8587
31 x 2216
62 x 1108
124 x 554
248 x 277
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68696
1 + 2 + 4 + 8 + 31 + 62 + 124 + 248 + 277 + 554 + 1108 + 2216 + 8587 + 17174 + 34348 + 68696 = 133440
ตัวประกอบของ 68696 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 31, 277
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68696 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68696 = 2 x 2 x 2 x 31 x 277
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68696 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68696 = 23 x 31 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68696 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68696 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68696 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34348
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68696
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68696 แบบที่หนึ่ง
  • 68696
    • 248
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 31
    • 277

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68696 แบบที่สอง
  • 68696
    • 2
    • 34348
      • 2
      • 17174
        • 2
        • 8587
          • 31
          • 277
ดังนั้น 68696 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68696 = 2 x 2 x 2 x 31 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68696 = 23 x 31 x 277 หรือ 23 x 311 x 2771

2. การแยกตัวประกอบของ 68696 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68696 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68696 นั้นก็คือ 2, 31, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68696

2
)68696
2
)34348
2
)17174
31
)8587
277
)277
1
ดังนั้น 68696 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68696 = 2 x 2 x 2 x 31 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68696 = 23 x 31 x 277 หรือ 23 x 311 x 2771

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68696

1แยกตัวประกอบของ 68696 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 311 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68696 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68696 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇