ตัวประกอบของ 68616 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68616
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68616 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68616 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68616 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68616 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68616 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 9, 12, 18, 24, 36, 72, 953, 1906, 2859, 3812, 5718, 7624, 8577, 11436, 17154, 22872, 34308, 68616
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68616 ÷ 1 | = | 68616 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 2 | = | 34308 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 3 | = | 22872 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 4 | = | 17154 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 6 | = | 11436 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 8 | = | 8577 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 9 | = | 7624 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 12 | = | 5718 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 18 | = | 3812 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 24 | = | 2859 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 36 | = | 1906 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 72 | = | 953 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 953 | = | 72 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 1906 | = | 36 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 2859 | = | 24 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 3812 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 5718 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 7624 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 8577 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 11436 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 17154 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 22872 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 34308 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68616 ÷ 68616 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68616
1 x 68616 | = | 68616 |
2 x 34308 | = | 68616 |
3 x 22872 | = | 68616 |
4 x 17154 | = | 68616 |
6 x 11436 | = | 68616 |
8 x 8577 | = | 68616 |
9 x 7624 | = | 68616 |
12 x 5718 | = | 68616 |
18 x 3812 | = | 68616 |
24 x 2859 | = | 68616 |
36 x 1906 | = | 68616 |
72 x 953 | = | 68616 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68616
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 9 + 12 + 18 + 24 + 36 + 72 + 953 + 1906 + 2859 + 3812 + 5718 + 7624 + 8577 + 11436 + 17154 + 22872 + 34308 + 68616 = 186030
▶ ตัวประกอบของ 68616 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 953
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68616 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68616 = 2 x 2 x 2 x 3 x 3 x 953
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68616 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68616 = 23 x 32 x 953
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68616 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68616 = 23 x 32 x 953
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68616 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68616 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68616 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34308
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68616
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68616 แบบที่หนึ่ง
- 68616
- 72
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 9
- 3
- 3
- 8
- 953
- 72
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68616 แบบที่สอง
- 68616
- 2
- 34308
- 2
- 17154
- 2
- 8577
- 3
- 2859
- 3
- 953
ดังนั้น 68616 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68616 =
2 x 2 x 2 x 3 x 3 x 953
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68616 =
23 x 32 x 953 หรือ 23 x 32 x 9531
2. การแยกตัวประกอบของ 68616 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68616 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68616 นั้นก็คือ 2, 3, 953 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68616
2)686162)343082)171543)85773)2859953)9531ดังนั้น 68616 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68616 = 2 x 2 x 2 x 3 x 3 x 953หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง68616 = 23 x 32 x 953 หรือ 23 x 32 x 9531วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68616
1แยกตัวประกอบของ 68616 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 32 x 95312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 953 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 3 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68616 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68616 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68616 นั้นก็คือ 2, 3, 953 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68616
2
)68616
2
)34308
2
)17154
3
)8577
3
)2859
953
)953
1
ดังนั้น 68616 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68616 = 2 x 2 x 2 x 3 x 3 x 953
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68616 = 23 x 32 x 953 หรือ 23 x 32 x 9531
1แยกตัวประกอบของ 68616 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 32 x 9531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 953 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 3 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68616 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68616 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇