ตัวประกอบของ 68614 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68614
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68614 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68614 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68614 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68614 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68614 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 7, 13, 14, 26, 29, 58, 91, 169, 182, 203, 338, 377, 406, 754, 1183, 2366, 2639, 4901, 5278, 9802, 34307, 68614
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68614 ÷ 1 | = | 68614 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 2 | = | 34307 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 7 | = | 9802 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 13 | = | 5278 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 14 | = | 4901 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 26 | = | 2639 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 29 | = | 2366 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 58 | = | 1183 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 91 | = | 754 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 169 | = | 406 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 182 | = | 377 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 203 | = | 338 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 338 | = | 203 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 377 | = | 182 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 406 | = | 169 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 754 | = | 91 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 1183 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 2366 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 2639 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 4901 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 5278 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 9802 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 34307 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68614 ÷ 68614 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68614
1 x 68614 | = | 68614 |
2 x 34307 | = | 68614 |
7 x 9802 | = | 68614 |
13 x 5278 | = | 68614 |
14 x 4901 | = | 68614 |
26 x 2639 | = | 68614 |
29 x 2366 | = | 68614 |
58 x 1183 | = | 68614 |
91 x 754 | = | 68614 |
169 x 406 | = | 68614 |
182 x 377 | = | 68614 |
203 x 338 | = | 68614 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68614
1 + 2 + 7 + 13 + 14 + 26 + 29 + 58 + 91 + 169 + 182 + 203 + 338 + 377 + 406 + 754 + 1183 + 2366 + 2639 + 4901 + 5278 + 9802 + 34307 + 68614 = 131760
▶ ตัวประกอบของ 68614 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 7, 13, 29
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68614 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68614 = 2 x 7 x 13 x 13 x 29
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68614 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68614 = 2 x 7 x 132 x 29
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68614 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68614 = 2 x 7 x 132 x 29
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68614 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68614 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68614 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34307
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68614
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68614 แบบที่หนึ่ง
- 68614
- 203
- 7
- 29
- 338
- 13
- 26
- 2
- 13
- 203
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68614 แบบที่สอง
- 68614
- 2
- 34307
- 7
- 4901
- 13
- 377
- 13
- 29
ดังนั้น 68614 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68614 =
2 x 7 x 13 x 13 x 29
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68614 =
2 x 7 x 132 x 29 หรือ 21 x 71 x 132 x 291
2. การแยกตัวประกอบของ 68614 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68614 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68614 นั้นก็คือ 2, 7, 13, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68614
2)686147)3430713)490113)37729)291ดังนั้น 68614 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68614 = 2 x 7 x 13 x 13 x 29หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง68614 = 2 x 7 x 132 x 29 หรือ 21 x 71 x 132 x 291วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68614
1แยกตัวประกอบของ 68614 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 132 x 2912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 3 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68614 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68614 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68614 นั้นก็คือ 2, 7, 13, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68614
2
)68614
7
)34307
13
)4901
13
)377
29
)29
1
ดังนั้น 68614 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68614 = 2 x 7 x 13 x 13 x 29
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68614 = 2 x 7 x 132 x 29 หรือ 21 x 71 x 132 x 291
1แยกตัวประกอบของ 68614 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 132 x 291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 3 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68614 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68614 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇