ตัวประกอบของ 68626 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68626
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68626 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68626 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 68626 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68626 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68626 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 34313, 68626
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 68626 ÷ 1 | = | 68626 | เหลือเศษ 0 |
| 68626 ÷ 2 | = | 34313 | เหลือเศษ 0 |
| 68626 ÷ 34313 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 68626 ÷ 68626 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68626
| 1 x 68626 | = | 68626 |
| 2 x 34313 | = | 68626 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68626
1 + 2 + 34313 + 68626 = 102942
▶ ตัวประกอบของ 68626 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 34313
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68626 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68626 = 2 x 34313
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68626 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68626 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68626 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34313
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68626
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68626
- 68626
- 2
- 34313
ดังนั้น 68626 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68626 =
2 x 34313
2. การแยกตัวประกอบของ 68626 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68626 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68626 นั้นก็คือ 2, 34313 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68626
2)6862634313)343131ดังนั้น 68626 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68626 = 2 x 34313วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68626
1แยกตัวประกอบของ 68626 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 3431312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 34313 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68626 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68626 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68626 นั้นก็คือ 2, 34313 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68626
2
)68626
34313
)34313
1
ดังนั้น 68626 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68626 = 2 x 34313
1แยกตัวประกอบของ 68626 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 343131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 34313 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68626 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68626 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇