ตัวประกอบของ 68607 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68607
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68607 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68607 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68607 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68607 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68607 มีทั้งหมด 30 ตัวคือ 1, 3, 7, 9, 11, 21, 27, 33, 63, 77, 81, 99, 121, 189, 231, 297, 363, 567, 693, 847, 891, 1089, 2079, 2541, 3267, 6237, 7623, 9801, 22869, 68607
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 68607 ÷ 1 | = | 68607 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 3 | = | 22869 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 7 | = | 9801 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 9 | = | 7623 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 11 | = | 6237 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 21 | = | 3267 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 27 | = | 2541 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 33 | = | 2079 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 63 | = | 1089 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 77 | = | 891 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 81 | = | 847 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 99 | = | 693 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 121 | = | 567 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 189 | = | 363 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 231 | = | 297 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 297 | = | 231 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 363 | = | 189 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 567 | = | 121 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 693 | = | 99 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 847 | = | 81 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 891 | = | 77 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 1089 | = | 63 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 2079 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 2541 | = | 27 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 3267 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 6237 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 7623 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 9801 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 22869 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 68607 ÷ 68607 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68607
| 1 x 68607 | = | 68607 |
| 3 x 22869 | = | 68607 |
| 7 x 9801 | = | 68607 |
| 9 x 7623 | = | 68607 |
| 11 x 6237 | = | 68607 |
| 21 x 3267 | = | 68607 |
| 27 x 2541 | = | 68607 |
| 33 x 2079 | = | 68607 |
| 63 x 1089 | = | 68607 |
| 77 x 891 | = | 68607 |
| 81 x 847 | = | 68607 |
| 99 x 693 | = | 68607 |
| 121 x 567 | = | 68607 |
| 189 x 363 | = | 68607 |
| 231 x 297 | = | 68607 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68607
1 + 3 + 7 + 9 + 11 + 21 + 27 + 33 + 63 + 77 + 81 + 99 + 121 + 189 + 231 + 297 + 363 + 567 + 693 + 847 + 891 + 1089 + 2079 + 2541 + 3267 + 6237 + 7623 + 9801 + 22869 + 68607 = 128744
▶ ตัวประกอบของ 68607 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 7, 11
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68607 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68607 = 3 x 3 x 3 x 3 x 7 x 11 x 11
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68607 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68607 = 34 x 7 x 112
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68607 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68607 = 34 x 7 x 112
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68607 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68607 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68607 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22869
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68607
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68607 แบบที่หนึ่ง
- 68607
- 231
- 11
- 21
- 3
- 7
- 297
- 11
- 27
- 3
- 9
- 3
- 3
- 231
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68607 แบบที่สอง
- 68607
- 3
- 22869
- 3
- 7623
- 3
- 2541
- 3
- 847
- 7
- 121
- 11
- 11
ดังนั้น 68607 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68607 =
3 x 3 x 3 x 3 x 7 x 11 x 11
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68607 =
34 x 7 x 112 หรือ 34 x 71 x 112
2. การแยกตัวประกอบของ 68607 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68607 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68607 นั้นก็คือ 3, 7, 11 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68607
3)686073)228693)76233)25417)84711)12111)111ดังนั้น 68607 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68607 = 3 x 3 x 3 x 3 x 7 x 11 x 11หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง68607 = 34 x 7 x 112 หรือ 34 x 71 x 112วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68607
1แยกตัวประกอบของ 68607 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 34 x 71 x 1122ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 x 3 = 30✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68607 มีทั้งหมด 30 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68607 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68607 นั้นก็คือ 3, 7, 11 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68607
3
)68607
3
)22869
3
)7623
3
)2541
7
)847
11
)121
11
)11
1
ดังนั้น 68607 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68607 = 3 x 3 x 3 x 3 x 7 x 11 x 11
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68607 = 34 x 7 x 112 หรือ 34 x 71 x 112
1แยกตัวประกอบของ 68607 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 34 x 71 x 112
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 x 3 = 30✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68607 มีทั้งหมด 30 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68607 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇