ตัวประกอบของ 68625 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68625
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68625 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68625 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68625 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68625 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68625 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 3, 5, 9, 15, 25, 45, 61, 75, 125, 183, 225, 305, 375, 549, 915, 1125, 1525, 2745, 4575, 7625, 13725, 22875, 68625
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68625 ÷ 1 | = | 68625 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 3 | = | 22875 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 5 | = | 13725 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 9 | = | 7625 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 15 | = | 4575 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 25 | = | 2745 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 45 | = | 1525 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 61 | = | 1125 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 75 | = | 915 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 125 | = | 549 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 183 | = | 375 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 225 | = | 305 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 305 | = | 225 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 375 | = | 183 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 549 | = | 125 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 915 | = | 75 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 1125 | = | 61 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 1525 | = | 45 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 2745 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 4575 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 7625 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 13725 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 22875 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
68625 ÷ 68625 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68625
1 x 68625 | = | 68625 |
3 x 22875 | = | 68625 |
5 x 13725 | = | 68625 |
9 x 7625 | = | 68625 |
15 x 4575 | = | 68625 |
25 x 2745 | = | 68625 |
45 x 1525 | = | 68625 |
61 x 1125 | = | 68625 |
75 x 915 | = | 68625 |
125 x 549 | = | 68625 |
183 x 375 | = | 68625 |
225 x 305 | = | 68625 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68625
1 + 3 + 5 + 9 + 15 + 25 + 45 + 61 + 75 + 125 + 183 + 225 + 305 + 375 + 549 + 915 + 1125 + 1525 + 2745 + 4575 + 7625 + 13725 + 22875 + 68625 = 125736
▶ ตัวประกอบของ 68625 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 61
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68625 = 3 x 3 x 5 x 5 x 5 x 61
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68625 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68625 = 32 x 53 x 61
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68625 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68625 = 32 x 53 x 61
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68625 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68625 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68625 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22875
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68625
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68625 แบบที่หนึ่ง
- 68625
- 225
- 15
- 3
- 5
- 15
- 3
- 5
- 15
- 305
- 5
- 61
- 225
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68625 แบบที่สอง
- 68625
- 3
- 22875
- 3
- 7625
- 5
- 1525
- 5
- 305
- 5
- 61
ดังนั้น 68625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68625 =
3 x 3 x 5 x 5 x 5 x 61
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68625 =
32 x 53 x 61 หรือ 32 x 53 x 611
2. การแยกตัวประกอบของ 68625 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68625 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68625 นั้นก็คือ 3, 5, 61 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68625
3)686253)228755)76255)15255)30561)611ดังนั้น 68625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68625 = 3 x 3 x 5 x 5 x 5 x 61หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง68625 = 32 x 53 x 61 หรือ 32 x 53 x 611วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68625
1แยกตัวประกอบของ 68625 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 53 x 6112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 61 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 4 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68625 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68625 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68625 นั้นก็คือ 3, 5, 61 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68625
3
)68625
3
)22875
5
)7625
5
)1525
5
)305
61
)61
1
ดังนั้น 68625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68625 = 3 x 3 x 5 x 5 x 5 x 61
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68625 = 32 x 53 x 61 หรือ 32 x 53 x 611
1แยกตัวประกอบของ 68625 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 53 x 611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 61 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 4 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68625 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68625 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇