โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68536 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68536

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68536 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68536 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 13, 26, 52, 104, 659, 1318, 2636, 5272, 8567, 17134, 34268, 68536
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68536 ÷ 1=68536เหลือเศษ 0
68536 ÷ 2=34268เหลือเศษ 0
68536 ÷ 4=17134เหลือเศษ 0
68536 ÷ 8=8567เหลือเศษ 0
68536 ÷ 13=5272เหลือเศษ 0
68536 ÷ 26=2636เหลือเศษ 0
68536 ÷ 52=1318เหลือเศษ 0
68536 ÷ 104=659เหลือเศษ 0
68536 ÷ 659=104เหลือเศษ 0
68536 ÷ 1318=52เหลือเศษ 0
68536 ÷ 2636=26เหลือเศษ 0
68536 ÷ 5272=13เหลือเศษ 0
68536 ÷ 8567=8เหลือเศษ 0
68536 ÷ 17134=4เหลือเศษ 0
68536 ÷ 34268=2เหลือเศษ 0
68536 ÷ 68536=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68536
1 x 68536
2 x 34268
4 x 17134
8 x 8567
13 x 5272
26 x 2636
52 x 1318
104 x 659
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68536
1 + 2 + 4 + 8 + 13 + 26 + 52 + 104 + 659 + 1318 + 2636 + 5272 + 8567 + 17134 + 34268 + 68536 = 138600
ตัวประกอบของ 68536 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 659
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68536 = 2 x 2 x 2 x 13 x 659
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68536 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68536 = 23 x 13 x 659
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68536 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68536 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68536 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34268
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68536
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68536 แบบที่หนึ่ง
  • 68536
    • 104
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 13
    • 659

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68536 แบบที่สอง
  • 68536
    • 2
    • 34268
      • 2
      • 17134
        • 2
        • 8567
          • 13
          • 659
ดังนั้น 68536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68536 = 2 x 2 x 2 x 13 x 659
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68536 = 23 x 13 x 659 หรือ 23 x 131 x 6591

2. การแยกตัวประกอบของ 68536 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68536 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68536 นั้นก็คือ 2, 13, 659 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68536

2
)68536
2
)34268
2
)17134
13
)8567
659
)659
1
ดังนั้น 68536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68536 = 2 x 2 x 2 x 13 x 659
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68536 = 23 x 13 x 659 หรือ 23 x 131 x 6591

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68536

1แยกตัวประกอบของ 68536 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 131 x 6591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 659 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68536 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68536 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇