ตัวประกอบของ 68313 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68313
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68313 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68313 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68313 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68313 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68313 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 7, 21, 3253, 9759, 22771, 68313
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 68313 ÷ 1 | = | 68313 | เหลือเศษ 0 |
| 68313 ÷ 3 | = | 22771 | เหลือเศษ 0 |
| 68313 ÷ 7 | = | 9759 | เหลือเศษ 0 |
| 68313 ÷ 21 | = | 3253 | เหลือเศษ 0 |
| 68313 ÷ 3253 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
| 68313 ÷ 9759 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 68313 ÷ 22771 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 68313 ÷ 68313 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68313
| 1 x 68313 | = | 68313 |
| 3 x 22771 | = | 68313 |
| 7 x 9759 | = | 68313 |
| 21 x 3253 | = | 68313 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68313
1 + 3 + 7 + 21 + 3253 + 9759 + 22771 + 68313 = 104128
▶ ตัวประกอบของ 68313 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 7, 3253
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68313 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68313 = 3 x 7 x 3253
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68313 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68313 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68313 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22771
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68313
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68313 แบบที่หนึ่ง
- 68313
- 21
- 3
- 7
- 3253
- 21
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68313 แบบที่สอง
- 68313
- 3
- 22771
- 7
- 3253
ดังนั้น 68313 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68313 =
3 x 7 x 3253
2. การแยกตัวประกอบของ 68313 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68313 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68313 นั้นก็คือ 3, 7, 3253 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68313
3)683137)227713253)32531ดังนั้น 68313 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68313 = 3 x 7 x 3253วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68313
1แยกตัวประกอบของ 68313 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 325312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3253 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68313 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68313 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68313 นั้นก็คือ 3, 7, 3253 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68313
3
)68313
7
)22771
3253
)3253
1
ดังนั้น 68313 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68313 = 3 x 7 x 3253
1แยกตัวประกอบของ 68313 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 32531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3253 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68313 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68313 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇