ตัวประกอบของ 66147 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 66147
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 66147 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 66147 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 66147 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 66147 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 66147 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 17, 51, 1297, 3891, 22049, 66147
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
66147 ÷ 1 | = | 66147 | เหลือเศษ 0 |
66147 ÷ 3 | = | 22049 | เหลือเศษ 0 |
66147 ÷ 17 | = | 3891 | เหลือเศษ 0 |
66147 ÷ 51 | = | 1297 | เหลือเศษ 0 |
66147 ÷ 1297 | = | 51 | เหลือเศษ 0 |
66147 ÷ 3891 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
66147 ÷ 22049 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
66147 ÷ 66147 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 66147
1 x 66147 | = | 66147 |
3 x 22049 | = | 66147 |
17 x 3891 | = | 66147 |
51 x 1297 | = | 66147 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 66147
1 + 3 + 17 + 51 + 1297 + 3891 + 22049 + 66147 = 93456
▶ ตัวประกอบของ 66147 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 17, 1297
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 66147 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66147 = 3 x 17 x 1297
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 66147 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 66147 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 66147 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22049
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66147
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66147 แบบที่หนึ่ง
- 66147
- 51
- 3
- 17
- 1297
- 51
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66147 แบบที่สอง
- 66147
- 3
- 22049
- 17
- 1297
ดังนั้น 66147 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66147 =
3 x 17 x 1297
2. การแยกตัวประกอบของ 66147 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 66147 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66147 นั้นก็คือ 3, 17, 1297 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66147
3)6614717)220491297)12971ดังนั้น 66147 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้66147 = 3 x 17 x 1297วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 66147
1แยกตัวประกอบของ 66147 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 171 x 129712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1297 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66147 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 66147 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66147 นั้นก็คือ 3, 17, 1297 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66147
3
)66147
17
)22049
1297
)1297
1
ดังนั้น 66147 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66147 = 3 x 17 x 1297
1แยกตัวประกอบของ 66147 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 171 x 12971
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1297 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66147 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 66147 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇