ตัวประกอบของ 65263 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65263
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65263 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65263 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65263 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65263 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65263 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 17, 187, 349, 3839, 5933, 65263
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 65263 ÷ 1 | = | 65263 | เหลือเศษ 0 |
| 65263 ÷ 11 | = | 5933 | เหลือเศษ 0 |
| 65263 ÷ 17 | = | 3839 | เหลือเศษ 0 |
| 65263 ÷ 187 | = | 349 | เหลือเศษ 0 |
| 65263 ÷ 349 | = | 187 | เหลือเศษ 0 |
| 65263 ÷ 3839 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 65263 ÷ 5933 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 65263 ÷ 65263 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65263
| 1 x 65263 | = | 65263 |
| 11 x 5933 | = | 65263 |
| 17 x 3839 | = | 65263 |
| 187 x 349 | = | 65263 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65263
1 + 11 + 17 + 187 + 349 + 3839 + 5933 + 65263 = 75600
▶ ตัวประกอบของ 65263 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 17, 349
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65263 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65263 = 11 x 17 x 349
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65263 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65263 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65263 มา 1 คู่ เช่น 11 x 5933
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65263
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65263 แบบที่หนึ่ง
- 65263
- 187
- 11
- 17
- 349
- 187
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65263 แบบที่สอง
- 65263
- 11
- 5933
- 17
- 349
ดังนั้น 65263 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65263 =
11 x 17 x 349
2. การแยกตัวประกอบของ 65263 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65263 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65263 นั้นก็คือ 11, 17, 349 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65263
11)6526317)5933349)3491ดังนั้น 65263 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65263 = 11 x 17 x 349วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65263
1แยกตัวประกอบของ 65263 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 171 x 34912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 349 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65263 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65263 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65263 นั้นก็คือ 11, 17, 349 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65263
11
)65263
17
)5933
349
)349
1
ดังนั้น 65263 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65263 = 11 x 17 x 349
1แยกตัวประกอบของ 65263 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 171 x 3491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 349 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65263 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65263 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇