ตัวประกอบของ 5798 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5798
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5798 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5798 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5798 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5798 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5798 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 223, 446, 2899, 5798
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5798 ÷ 1 | = | 5798 | เหลือเศษ 0 |
5798 ÷ 2 | = | 2899 | เหลือเศษ 0 |
5798 ÷ 13 | = | 446 | เหลือเศษ 0 |
5798 ÷ 26 | = | 223 | เหลือเศษ 0 |
5798 ÷ 223 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
5798 ÷ 446 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
5798 ÷ 2899 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5798 ÷ 5798 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5798
1 x 5798 | = | 5798 |
2 x 2899 | = | 5798 |
13 x 446 | = | 5798 |
26 x 223 | = | 5798 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5798
1 + 2 + 13 + 26 + 223 + 446 + 2899 + 5798 = 9408
▶ ตัวประกอบของ 5798 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 223
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5798 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5798 = 2 x 13 x 223
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5798 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5798 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5798 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2899
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5798
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5798 แบบที่หนึ่ง
- 5798
- 26
- 2
- 13
- 223
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5798 แบบที่สอง
- 5798
- 2
- 2899
- 13
- 223
ดังนั้น 5798 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5798 =
2 x 13 x 223
2. การแยกตัวประกอบของ 5798 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5798 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5798 นั้นก็คือ 2, 13, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5798
2)579813)2899223)2231ดังนั้น 5798 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5798 = 2 x 13 x 223วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5798
1แยกตัวประกอบของ 5798 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 22312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5798 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5798 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5798 นั้นก็คือ 2, 13, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5798
2
)5798
13
)2899
223
)223
1
ดังนั้น 5798 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5798 = 2 x 13 x 223
1แยกตัวประกอบของ 5798 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 2231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5798 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5798 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇